30 June 2013

"โปรเจค 1/4" บทวิจารณ์จากนิตยสารสีสัน



"โปรเจค 1/4 เส้นทางระหว่างเขาและเธอ" คัดมาจากนิตยสารสีสัน ปีที่ 24 ฉบับที่ 10 2556
ละคร THEATRES
เขียนโดย กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน



“Project ¼ เส้นทางระหว่างเขาและเธอ” เป็นผลงานล่าสุดของคณะพระจันทร์เสี้ยวการละครซึ่งดูเหมือนจะมีกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง เป็นละครสั้นสี่เรื่องจากบทละครของ อรดา ลีลานุช กำกับโดยผู้กำกับรุ่นใหม่ 4 คน โดยตัว สินีนาฏ เกษประไพ ไปรับหน้าที่โปรดิวเซอร์

จากการเสวนาหลังละครจบ จึงทำให้ได้รู้ว่าบทของอรดานั้น มีแต่ตัวละครและบทพูด ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ สถานที่ เวลา แต่อย่างใด บทแบบนี้ ผู้กำกับละครชอบกันนัก เพราะให้อิสระในการสร้างภาพอย่างเต็มที่ รวมถึงตอนจบซึ่งเมื่อบทพูดจบไปแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับเองที่จะตัดสินใจว่าละครจะจบลงอย่างไร

ละครทั้ง 4 เรื่อง แบ่งออกเป็นเป็นเหมือนจริงสองเรื่อง และแอ็บสแทร็คท์ 2 เรื่อง แน่นอนคนดูย่อมรับเรื่องเหมือนจริงได้มากกว่า เพราะมีอะไรจับต้องได้ ในขณะที่แอ็บสแทร็คท์นั้น คนดูได้ใช้จินตนาการร่วมสร้างเรื่องราวขึ้นมาด้วย



“สายน้ำกับสายลม” กำกับโดย สุกัญญา เพี้ยนศรี แสดงโดย อรรถพล อนันตวรสกุล และตัวผู้เขียนบท อรดา ลีลานุช เป็นเรื่องของสามีภรรยาที่ความคิดไม่ตรงกัน จนในที่สุดสามีก็ต้องลงมือทำอาหารด้วยตนเอง ส่วนภรรยาก็ทำหน้าที่ซักผ้ารีดผ้า ดูจากภาพก็เหมือนครอบครัวที่มีความสุข แต่เราก็ได้เห็นความแบ่งแยก และบางครั้งก็มีการก้าวก่ายรุกล้ำซึ่งกันและกัน

เป็นเรื่องที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้มากที่สุด ดูได้เพลินที่สุดโดยเฉพาะการแสดงของทั้งคู่ เพราะโดยปกติแล้วทั้ง 2 คน ไม่ใช่นักแสดงตลกจึงออกมาในลักษณะของตลกหน้าตาย ที่ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะได้มากขึ้น


“ที่พักใจ” กำกับโดย ศิริธร ศิริวรรณ แสดงโดย อาคีรา โหมดสกุล และ เกรียงไกร ฟูเกษม ซึ่งทั้ง 2 คนมีชื่อในบทตลกโลดโผนเฮฮา จึงเป็นเรื่องที่คนดูตั้งใจมาฮากันมากที่สุด แต่กลับผิดคาด เพราะเป็นเรื่องของสามีภรรยาอีกคู่ ที่ดูจากภายนอกก็รักใคร่เอาใจใส่กันดี มีชีวิตที่ราบเรียบ ปกติสุข และผู้แสดงทั้ง 2 คน แสดงออกมาเรียบๆเหมือนภาพชีวิตประจำวัน

ในความเรียบง่ายของการแสดงออกนี่เองที่นักแสดงให้เห็นถึงฝีมือของทั้งคู่ วิธีการพูดของทั้ง 2 คนดึงเอาความหมายบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวบทออกมาให้เห็นเด่นชัด กลายเป็นแบล็คคอเมดี้ที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้โดยไม่ต้องทำตลก


“นี่ไม่ใช่บทเพลงรัก” กำกับโดย เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ แสดงโดย ณัฐนันท์ ประเสริฐรัสมี และเบน โกศลศักดิ์ หนุ่มสาวทั้ง 2 คนมาพบกันในที่แห่งหนึ่งไร้ขอบเขตกว้างขวางว่างเปล่า ทั้ง 2 คนมุ่งหาความหมายบางอย่างและไม่แน่ใจว่าจะรู้ตัวได้พบหรือไม่ หรือจะวนเวียนกันไปอย่างในละคร คือเริ่มต้นและจบลงด้วยภาพเดียวกัน

เบน โกศลศักดิ์ มีลักษณะโรแมนติคแบบฝันๆและมีความเด่นมากเวลาอยู่บนเวที ส่วนณัฏฐนันท์ ก็ดูเปราะบาง อ้างว้าง เหมาะกับเรื่องนี้มาก


“เสียงสะท้อนจากความเงียบ” กำกับโดย รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ แสดงโดย วรุฒม์ เข็มประสิทธิ์ และ เววิรี อิทธิอนันตกุล เป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีมาก ทั้งรูปร่างหน้าตา และการรับส่งบท หนุ่มสาว 2 คนที่มาอยู่ด้วยกันในสถานที่ที่ระบุว่าเป็นแพ แต่อยู่ที่ไหนไม่รู้ และดูไม่มีทางออก ในขณะที่คนหนึ่งกำลังตามหาอะไรบางอย่าง อีกคนหนึ่งก็พยายามหลีกหนีไปเหมือนกัน

เรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงเสียงประกอบที่เป็นเสียงปืนดังมาจากภายนอกเป็นระยะๆและเสียงวิทยุรายงานข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายรัฐและประชาชน



สองเรื่องหลังนี้ออกแนวแอ็บสแทร็คท์ที่ผู้ชมต้องคิดและตีความเอาเอง แต่การตีความของตัวผู้กำกับเองก็เด่นชัดมาก (เกินไป?) ด้วยการมีของประกอบฉาก องแรกนั้นมีกระดาษพับเป็นรูปเรือแบบที่ใช้ในพิธีกงเต๊ก ส่วนเรื่องที่ 2 นอกจากเสียงประกอบแล้วก็ยังมีตุ๊กตานอนกลาดเกลื่อนอยู่บนพื้นอีกด้วยออกไป

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของละคร 4 เรื่องนี้ ก็คือการใช้พื้นที่ในการแสดง เป็นโรงละครเล็กๆแต่ก็ดูกว้างขวางเมื่อมีผู้แสดงเพียง 2 คน การจัดตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของตัวละครจึงต้องทำให้ดู้ต็มเวทีและก็ทำได้ดี โดยเฮพาะทั้ง 4 เรื่องเป็นเรื่องที่ดูไร้ขอบเขตของฉาก แต่กลับต้องแสดงถึงความคับแคบที่ตัวละครต้องการหลบหนี ในส่วนนี้ “นี่ไม่ใช่บทเพลงรัก” ทำได้ดีที่สุด เพราะตามเรื่องแล้วฉากของเขากว้างที่สุด




นอกจากนี้ยังมีการใช้พื้นที่ของโรงละครให้เป็นประโยชน์มากขึ้นกว่าเรื่องอื่นๆที่เคยมาแสดงกันที่นี่ เช่นหน้าต่างกระจกซึ่งปกติจะใช้ม่านปิดเอาไว้ หรือพื้นที่ที่เป็นซอกเล็กๆข้างโรงที่ไม่เคยใช้กันเลย

ที่สำคัญคือโรงละครพระจันทร์เสี้ยวที่ปกติจะรับคนดูได้เพียง 30 คน ในบางรอบต้องจัดที่นั่งให้คนดูถึง 50 คน


ภาพถ่ายโดย
อดิเดช ชัยวัฒนกุล


No comments: