Showing posts with label ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว. Show all posts
Showing posts with label ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว. Show all posts
02 November 2019
Women and the Lighthouse ผู้หญิงกับประภาคาร
ผู้หญิงกับประภาคาร
โดย พระจันทร์เสี้ยวการละคร
ใน เทศกาลละครกรุงเทพ 2019
คำ ห้วงความคิด การเคลื่อนไหว ดนตรี
เฉดสีของกระแสความคิด การสังเกตุรับรู้ กับความจริงจากภายในของผู้หญิงที่ประภาคาร แรงกระตุ้นจากตัวหนังสือของนักเขียนหญิง เวอร์จิเนีย วูล์ฟ เรื่อง “ To The Lighthouse ” สู่การแสดงของตัวบทกลายมาเป็นการแสดงของคำและการเคลื่อนไหวร่างกายผ่านกระแสสำนึกที่ว่ายวนในห้วงความคิดและการค้นหาจิตวิญญาณของผู้หญิงในอดีตที่ผ่านเลย
แสดงโดย : ปานมาศ ทองปาน, ศุภิสรา วันชาญเวช, อรดา ลีลานุช, สินีนาฏ เกษประไพ
บทโดย : อรดา ลีลานุช
กำกับโดย : สินีนาฏ เกษประไพ
วันที่ : 9-10 พ.ย. 2562
เวลา : 18:30, 20:00 น.
สถานที่ : หอศิลปวัฒนฑรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น 4 ห้อง 401
ระยะเวลา : 40 Minutes
บัตร : 450 Baht / Student 400 Baht
จองบัตร : 097 219 9709, 091 775 1215
Fb : Crescent Moon Theatre
Women and the Lighthouse
by Crescent Moon Theatre
in Bangkok Theatre Festival 2019
Words, thoughts, movement, music
The spectrum of introspection, observation, and truth from inside of women at the lighthouse. This is a reflection from the almost no action of modernist novel “To the Lighthouse” by Virginia Woolf through a performance text that transforms into performance of consciousness and soul-searching of women in the past.
Performers : Panmas Tongpan, Supissara Wanchanwech, Orada Lelanuja, Sineenadh Keitprapai
A performance text by Orada Lelanuja
Directed by Sineenadh Keitprapai
*** English sur-title available ***
Date : 9-10 November 2019
Time : 6:30 PM, 8:00 PM
Vnue : BACC room 401
Duration : 40 Minutes
Ticket : 450 Baht / Student 400 Baht
Reservations : 097 219 9709, 091 775 1215
Fb : Crescent Moon Theatre
15 September 2019
ฟาร์มลับ ไม่มีในฟาร์ม BTF 2019
14 - 22 ก.ย. นี้
ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00-17.00
มารู้ลึก รู้จริง ถึงความน่าสนใจและเบื้องหลังการสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้น ใน BTF2019
โดยผู้กำกับแต่ละเรื่อง ที่จะมาพูดคุยถึงผลงานตัวเอง กับผู้ดำเนินรายการกันสดๆ
พิเศษ!! ท่านผู้ชมเอง ก็สามารถร่วมพูดคุยได้เช่นกัน
อยากทราบรายละเอียดเรื่องไหน ก่อนตัดสินใจซื้อบัตร มาสอบถามด้วยตัวคุณเองได้เลย
ไม่อยากให้พลาด โอกาสดีๆ เช่นนี้ ไม่มีบ่อยๆ
เปิดเข้าร่วมพูดคุยฟรี ที่ชั้น3 หอศิลป์กรุงเทพฯ (BACC)
หรือชม live การสนทนาสดๆ ได้ทางเพจ Bangkok theatre festival
เวลา 13.00-17.00 น
ดำเนินรายการโดย
ประดิษฐ ประสาททอง (BTF2019 Program Director)
ตารางดังนี้
เสาร์ 14 กันยายน 2562
13:00-17:00 ฟาร์มลับไม่มีในฟาร์ม Studio ชั้น 4
(ร่วมพูดคุยกับการแสดง ที่จะมาแสดงในพื้นที่ Studio ชั้น 4 BACC)
อาทิตย์ 15 กันยายน 2562
13:00-17:00 ฟาร์มลับไม่มีในฟาร์ม 401
(ร่วมพูดคุยกับการแสดง ที่จะมาแสดงในพื้นที่ ห้อง 401 BACC)
เสาร์ 21 กันยายน 2562
13:00-17:00 ฟาร์มลับไม่มีในฟาร์ม 501
(ร่วมพูดคุยกับการแสดง ที่จะมาแสดงในพื้นที่ ห้อง 501 BACC)
อาทิตย์ 22 กันยายน 2562
13:00-17:00 ฟาร์มลับไม่มีในฟาร์ม Other Venues
(ร่วมพูดคุยกับการแสดง ที่แสดงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ)
------------------------------------
วันนี้ พระจันทร์เสี้ยวการละคร จะไปร่วมวงพูดคุย ฟาร์มลับไม่มีในฟาร์ม 401 ค่ะ
ป้ายกำกับ:
BTF 2009,
Crescent Moon Theatre,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว
28 December 2018
สรุปงานพระจันทร์เสี้ยวการละคร ปี 2561
ก่อนปี 2561 จะผ่านไป เราขอรวบรวมการแสดงและกิจกรรม workshop ต่างๆที่เราทำในปีนี้มาไว้ตรงนี้ เรามีงาน re stage 2 เรื่อง คือ วาวา The Rice Child และ Rice Now เราทำละครใหม่ 2 เรื่องคือ Woyzeck และ Women in Dystopia เรามีงานละครหุ่น 2 เรื่องคือ The Goal และ Play Time และที่สำคัญปีนี้เราจัดงานเพื่อพบปะครู คำรณ คุณะดิลก ผู้กำกับ และผู้ก่อตั้งพระจันทร์เสี้ยวการละคร และทำให้เราได้พบปะรวมรุ่นสมาชิกทั้งเก่าปัจจุบัน และเพื่อนมิตรนักการละคร
รายละเอียดกิจกรรมในแต่ละเดือน มีดังนี้
มกราคม
ละครสั้นละครจากบทความ อ.ป๋วย อึ๊งภากร "คุณภาพชีวิต" แสดงในงาน We Walk ที่ ป๋วย เสวนาคาร ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
เมษายน
เทศกาลละคร 24 ชั่วโมง / 24hr Play Festival 2018 20-21 เมษายน 2561
นำเสนอละครสั้น 5 เรื่อง จากการรวมตัวกันของนักทำละคร 24 คน ที่จะเขียนบทยันเช้า ซ้อมยันเย็น เล่นจนจบภายใน 24 ชั่วโมง
พฤษภาคม
ละครหุ่นสายสือผสม "วาวา The Rice Child" กลับมาอีกครั้งใน Bict Fest เทศกาลละครสำหรับเด็กซึ่งแสดงที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร Bacc
นอกจากจัดแสดงแล้วเรายังทำ Workshop หุ่นหนังสือพิมพ์ด้วย
มิถุนายน
ละครหุ่น 'สามเกลอเล่นกัน' (Playtime) ร่วมแสดงในงานรำลึกครูองุ่น มาลิก 2561 ที่ สวนครูองุ่น (ทองหล่อ ซ.3)
งาน "72 ปี คำรณ คุณะดิลก" Homeroom พูดคุยเรื่องศิลปะ ละคร กับชีวิต
ที่ ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมแสงอรุณ
กันยายน
แปลนเนรมิตร ร่วมกับ คณะละครครยายหุ่น/พระจันทร์เสี้ยวการละคร จัดแสดงละครหุ่นถุงมือเรื่อง "The Goal" และจัด workshop หุ่นถุงมือ ที่ โรงละครแสงอรุณ
พฤศจิกายน
ละครเวที "Woyzeck the unfinished story" และ "Women in Dystopia" แสดงในเทศกาลละครกรุงเทพ Bangkok Theatre Festival 2018
การแสดง "Rice Now" ร่วมแสดงในงาน สามแพร่ง facestreet "เทศกาลศิลปะและชุมชน" ที่แพร่งนรา
ธันวาคม
จัดอบรม "Body Movement" โดย คุณสินีนาฏ เกษประไพ และ "Creativity & Script Writing" โดย ดร.อรดา ลีลานุช
ให้กับโครงการค่ายเยาวชนนานาชาติ L'arts ASEAN Seeds Camp Program 5 : Digital Natives and the New Empowerment Camp ให้กับน้องๆเยาวชนทั้งไทยและนานาชาติ
จำนวน 48 คน จัดโดย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากนี้เรายังจัด Movement Lab 3 ครั้ง
ที่ Spark Drama เดือนมีนาคม, Democarzy Theatre Studio เดือนเมษายน และ ที่ Dance Factory เดือนกรกฎาคม
ป้ายกำกับ:
Crescent Moon Theatre,
Movement,
คำรณ คุณะดิลก,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว
23 November 2018
BTF Awards 2018
Woyzeck : the unfinished story
ได้เข้าชิงรางวัล BTF Awards 2018 ในส่วนรางวัลสำหรับ Local Artist 4 รางวัล ดังนี้
เข้าชิง Best Art Direction
เข้าชิง Best Group Performers
เข้าชิง Best Direction
เข้าชิง Best Performance
ผลประกาศรางวัล BTF Awards 2018
Woyzeck : the unfinished story ได้รับ 2 รางวัล คือ
รางวัล Best Art Direction
รางวัล Best Direction
ขอขอบคุณ BTF 2018 สำหรับกำลังใจให้คนสร้างงาน
ได้เข้าชิงรางวัล BTF Awards 2018 ในส่วนรางวัลสำหรับ Local Artist 4 รางวัล ดังนี้
เข้าชิง Best Art Direction
เข้าชิง Best Group Performers
เข้าชิง Best Direction
เข้าชิง Best Performance
(cr photo : BTF 2018)
ผลประกาศรางวัล BTF Awards 2018
Woyzeck : the unfinished story ได้รับ 2 รางวัล คือ
รางวัล Best Art Direction
รางวัล Best Direction
ขอขอบคุณ BTF 2018 สำหรับกำลังใจให้คนสร้างงาน
11 September 2018
ละครหุ่น The Goal
PlanNeramit ร่วมกับ คณะละครครยายหุ่น / พระจันทร์เสี้ยวการละคร เสนอ
ละครหุ่นถุงมือ
"The Goal"
โดย ละครยายหุ่นและพระจันทร์เสี้ยวการละคร
ประเภท - ละครหุ่นถุงมือ
ความยาว - การแสดง 35 นาที เวิร์คชอปทำหุ่นเงา 40 นาที
แสดงวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 29 - 30 กันยายน 2561
รอบ เช้า 10.00 น. บ่าย 14.00 น.
การแสดงเหมาะสำหรับเด็กวัย 3 - 8 ปี
เรื่องย่อ
เด็กชายคนหนึ่งที่เติบโตมาจากความใฝ่ฝันของพ่อแม่ที่อยากให้เป็นนักฟุตบอล โดยที่ไม่เคยถามเด็กว่าจริงๆแล้วโตขึ้นอยากเป็นอะไร
🎫 ซื้อบัตรได้ที่ https://goo.gl/9NB2s4
-
คณะละครยายหุ่น (คุณองุ่น มาลิก) และพระจันทร์เสี้ยวการละคร
คณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก) เป็นโครงการร่วมมือกับระหว่างพระจันทร์เสี้ยวการละครและมูลนิธิไชยวัฒนา โดยมีจุดเริ่มต้นที่นักละครจากพระจันทร์เสี้ยวการละครผ่านการเรียนรู้จากมูลนิธิไชยวัฒนาและบรรดาลูกศิษย์ของครูองุ่น มาลิก จนเกิดความประทับใจและศรัทธาต่อการอุทิศตนสร้างสรรค์ละคร “หุ่นผ้าขี้ริ้ว” ที่ครูได้ทำและแจกจ่ายให้กับเด็กๆ และเยาวชนด้อยโอกาส และชักชวนลุกศิษย์ออกไปแสดงตามชุมชนในชื่อ "คณะครูองุ่น" จนช่วงสุดท้ายของชีวิต ปัจจุบันมีทั้งการแสดงละครหุ่น กิจกรรมเล่านิทาน อบรมทำหุ่น อบรมการแสดงละครหุ่นให้เด็กและเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป รวมถึงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์จากเศษวัสดุ
Cr Photo : PlanNeramit
ป้ายกำกับ:
Crescent Moon Theatre,
ยายหุ่น,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว,
ละครหุ่น
26 May 2018
Spotlight Thailand
F6 / BICT Fest 2018
หัวข้อ : ศิลปินเสวนา Spotlight เมืองไทย
ผู้ร่วมเสวนา : กลุ่มละครพระจันทร์เสี้ยว และเบบี้ไมม์ โดย สินีนาฏ เกษประไพ และ รัชชัย รุจิวิพัฒนา
ดำเนินการเสวนาโดย เศรษฐ์สิริ นิรันดร
วัน : เสาร์ 26 พฤษภาคม 2561
เวลา : 11.00 – 12.30
สถานที่ : ห้อง 501 ชั้น 5 หอศิลปกรุงเทพฯ
Topic : Spotlight Thailand
Speaker : Crescent Moon Theatre & Babymime by Sineenadh Keitprapai and Ratchai Rujipattana
Moderated by Setsiri Nirandara
Date: 26 May 2018 Time: 11.00 – 12.30
Venue: Room 501, 5th floor, Bangkok Art and Culture Centre
หัวข้อ : ศิลปินเสวนา Spotlight เมืองไทย
ผู้ร่วมเสวนา : กลุ่มละครพระจันทร์เสี้ยว และเบบี้ไมม์ โดย สินีนาฏ เกษประไพ และ รัชชัย รุจิวิพัฒนา
ดำเนินการเสวนาโดย เศรษฐ์สิริ นิรันดร
วัน : เสาร์ 26 พฤษภาคม 2561
เวลา : 11.00 – 12.30
สถานที่ : ห้อง 501 ชั้น 5 หอศิลปกรุงเทพฯ
Topic : Spotlight Thailand
Speaker : Crescent Moon Theatre & Babymime by Sineenadh Keitprapai and Ratchai Rujipattana
Moderated by Setsiri Nirandara
Date: 26 May 2018 Time: 11.00 – 12.30
Venue: Room 501, 5th floor, Bangkok Art and Culture Centre
ป้ายกำกับ:
BictFest2018,
Crescent Moon Theatre,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว
31 December 2016
Crescent Moon Theatre in 2016
Performance:
Mai Pen Rai Project 2016
Shade Borders at MUPA
Dis-Con-nect : workshop showcase
Parallel [between the lines]
รื้ อ [being Paulina Salas and the practice]
Workshop:
Movement Workshop #1
Movement Workshop #2
Back to Basic : Acting workshop #10
Stage Lighting Design workshop #10
Stage Lighting Design workshop #11
Devising Workshop
Creative Writing #7
Creative Drama with Puppet Workshop
Finger Puppet Making Workshop
Grandma Puppet:
Creative Drama with Puppet Workshop
Finger Puppet Making Workshop
มหกรรมการแสดงแสนหรรษา #18
Junk Puppet Workshop
Art Teacher Workshop #2 (BACC)
Art Teacher workshop #1 (BACC)
โครงการห้องสมุดสร้างสรรค์ มหัศจรรย์นักอ่าน ที่ สสส.
Mai Pen Rai Project 2016
Shade Borders at MUPA
Dis-Con-nect : workshop showcase
Parallel [between the lines]
รื้ อ [being Paulina Salas and the practice]
Workshop:
Movement Workshop #1
Movement Workshop #2
Back to Basic : Acting workshop #10
Stage Lighting Design workshop #10
Stage Lighting Design workshop #11
Devising Workshop
Creative Writing #7
Creative Drama with Puppet Workshop
Finger Puppet Making Workshop
Creative Drama with Puppet Workshop
Finger Puppet Making Workshop
มหกรรมการแสดงแสนหรรษา #18
Junk Puppet Workshop
Art Teacher Workshop #2 (BACC)
Art Teacher workshop #1 (BACC)
โครงการห้องสมุดสร้างสรรค์ มหัศจรรย์นักอ่าน ที่ สสส.
ป้ายกำกับ:
Crescent Moon Theatre,
Theatre,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว
27 February 2015
รายชื่อผู้ได้รับรางวัลจากชมรมนักวิจารณ์
รายชื่อผู้ได้รับรางวัล IATC THAILAND DANCE AND THEATRE REVIEW 2014
ละครเวที (ละครพูด) ยอดเยี่ยม (Best Play)
- "In เธอ’s View: A Documentary Theatre" โดย New Theatre Society
ละครเพลงยอดเยี่ยม (Best Musical)
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" โดย Arts Hub Group
การแสดงที่ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายยอดเยี่ยม (Best Movement-based Performance)
- "Hipster the King" โดย NONCITIZEN และ Democrazy Theatre Studio
บทละครดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Script of a Play/Performance)
- "Hipster the King" โดย ธนพล วิรุฬหกุล
บทละครดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Script of a Play/Performance)
- "เกมยุติธรรม" โดย นินาท บุญโพธิ์ทอง (จากบทละครต่างๆ ของ William Shakespeare)
บทสำหรับละครเพลงยอดเยี่ยม (Best Book of a Musical)
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" โดย มหา ศุภวัฒน์หงษา
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงชาย (Best Performance by a Male Artist)
- ธีระวัฒน์ มุลวิไล ("สถาปนา: ถังแดง")
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงหญิง (Best Performance by a Female Artist)
- ดุจดาว วัฒนปกรณ์ บุญใหญ่ ("The Maids-สุขฆาตกรรม")
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงกลุ่ม (Best Performance by an Ensemble)
- คณะนักแสดงเรื่อง "เงา-ร่าง"
การกำกับการแสดงยอดเยี่ยม (Best Direction of a Play/Performance/Musical)
- ธนพล วิรุฬหกุล ("Hipster the King")
การออกแบบศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction of a Play/Performance/Musical)
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "Boxes"
รางวัล Lifetime Achievement Award
- คำรณ คุณะดิลก
ทางชมรมวิจารณ์ศิลปะการแสดง (IATC - International Association of Theatre Critics Thailand Centre) ขอแสดงความยินดีกับทุกท่าน และขอขอบคุณศิลปิน สื่อมวลชน และทุกท่านที่สละเวลามาร่วมงาน
ที่มา : จาก fb ชมรมนักวิจารณ์
ป้ายกำกับ:
Crescent Moon Theatre,
คำรณ คุณะดิลก,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว
10 February 2015
ประกาศผู้ได้รับการเสนอชื่อในรางวัล IATC THAILAND DANCE AND THEATRE REVIEW 2014
ขอแสดงความยินดีกับครูคำรณ คุณะดิลก ครูผู้ก่อตั้งพระจันทร์เสี้ยวการละคร กับรางวัลจากชมรมวิจารณ์ศิลปะการแสดง
ประกาศผู้ได้รับการเสนอชื่อในรางวัล IATC THAILAND DANCE AND THEATRE REVIEW 2014
ละครเวที (ละครพูด) ยอดเยี่ยม (Best Play)
- "In เธอ’s View: A Documentary Theatre" โดย New Theatre Society
- "Boxes" โดย Democrazy Theatre Studio
- "The Cult of Monte Cristo" โดย นพพันธ์ บุญใหญ่
ละครเพลงยอดเยี่ยม (Best Musical)
- "ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล" โดย The Musicals Society of Bangkok, สุรุจ ทิพากรเสนี และ สุดาพิมพ์ โพธิภักติ
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" โดย Arts Hub Group
- "Hedwig and the Angry Inch" โดย Walrus Art and Music Group
การแสดงที่ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายยอดเยี่ยม (Best Movement-based Performance)
- "เงา-ร่าง" โดย พระจันทร์เสี้ยวการละคร
- "สถาปนา: ถังแดง" โดย B-Floor Theatre
- "Hipster the King" โดย NONCITIZEN และ Democrazy Theatre Studio
บทละครดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Script of a Play/Performance)
- "Boxes" โดย คณะละคร Boxes
- "Hipster the King" โดย ธนพล วิรุฬหกุล
- "Utopian Malady" โดย นพพันธ์ บุญใหญ่
บทละครดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Script of a Play/Performance)
- "เกมยุติธรรม" โดย นินาท บุญโพธิ์ทอง (จากบทละครต่างๆของ William Shakespeare)
- "เสียงนั้น…ชื่อปรารถนา" โดย กฤษณะ พันธุ์เพ็ง (จาก "Vieux Carré" โดย Tennessee Williams)
- "The Physicists: มนุษย์ปรมาณู" โดย ภัทริยา พัวพงศกร และ เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ (จาก "Die Physiker" โดย Friedrich Dürrenmatt)
บทสำหรับละครเพลงยอดเยี่ยม (Best Book of a Musical)
- "ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล" โดย สุรุจ ทิพากรเสนี
- "เพลงรักของเธอ สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล" โดย วัชระ แวววุฒินันท์
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" โดย มหา ศุภวัฒน์หงษา
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงชาย (Best Performance by a Male Artist)
- ธีระวัฒน์ มุลวิไล ("สถาปนา: ถังแดง")
- สายฟ้า ตันธนา ("The Cult of Monte Cristo")
- James Laver ("Boxes")
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงหญิง (Best Performance by a Female Artist)
- กิตติพร โรจน์วนิช ("The Search for Signs of Intelligent Life in the Universe")
- ดุจดาว วัฒนปกรณ์ บุญใหญ่ ("The Maids-สุขฆาตกรรม")
- สินีนาฏ เกษประไพ ("เงา-ร่าง")
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงกลุ่ม (Best Performance by an Ensemble)
- คณะนักแสดงเรื่อง "เงา-ร่าง"
- คณะนักแสดงเรื่อง "เสียงนั้น…ชื่อปรารถนา"
- คณะนักแสดงเรื่อง "In เธอ’s View: A Documentary Theatre"
การกำกับการแสดงยอดเยี่ยม (Best Direction of a Play/Performance/Musical)
- ธนพล วิรุฬหกุล ("Hipster the King")
- ธีระวัฒน์ มุลวิไล ("สถาปนา: ถังแดง")
- อัจจิมา ณ พัทลุง ("Boxes")
การออกแบบศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction of a Play/Performance/Musical)
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "สถาปนา: ถังแดง"
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "Boxes"
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "Hipster the King"
---------------------------------------------
*** รางวัล Lifetime Achievement Award: คำรณ คุณะดิลก ***
---------------------------------------------
งานประกาศรางวัล IATC THAILAND DANCE AND THEATRE REVIEW 2014
จะจัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เวลา 18.00 น. ขอเชิญเหล่าศิลปิน สื่อมวลชน และผู้ที่สนใจร่วมงานดังกล่าว
ประกาศผู้ได้รับการเสนอชื่อในรางวัล IATC THAILAND DANCE AND THEATRE REVIEW 2014
ละครเวที (ละครพูด) ยอดเยี่ยม (Best Play)
- "In เธอ’s View: A Documentary Theatre" โดย New Theatre Society
- "Boxes" โดย Democrazy Theatre Studio
- "The Cult of Monte Cristo" โดย นพพันธ์ บุญใหญ่
ละครเพลงยอดเยี่ยม (Best Musical)
- "ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล" โดย The Musicals Society of Bangkok, สุรุจ ทิพากรเสนี และ สุดาพิมพ์ โพธิภักติ
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" โดย Arts Hub Group
- "Hedwig and the Angry Inch" โดย Walrus Art and Music Group
การแสดงที่ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายยอดเยี่ยม (Best Movement-based Performance)
- "เงา-ร่าง" โดย พระจันทร์เสี้ยวการละคร
- "สถาปนา: ถังแดง" โดย B-Floor Theatre
- "Hipster the King" โดย NONCITIZEN และ Democrazy Theatre Studio
บทละครดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Script of a Play/Performance)
- "Boxes" โดย คณะละคร Boxes
- "Hipster the King" โดย ธนพล วิรุฬหกุล
- "Utopian Malady" โดย นพพันธ์ บุญใหญ่
บทละครดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Script of a Play/Performance)
- "เกมยุติธรรม" โดย นินาท บุญโพธิ์ทอง (จากบทละครต่างๆของ William Shakespeare)
- "เสียงนั้น…ชื่อปรารถนา" โดย กฤษณะ พันธุ์เพ็ง (จาก "Vieux Carré" โดย Tennessee Williams)
- "The Physicists: มนุษย์ปรมาณู" โดย ภัทริยา พัวพงศกร และ เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ (จาก "Die Physiker" โดย Friedrich Dürrenmatt)
บทสำหรับละครเพลงยอดเยี่ยม (Best Book of a Musical)
- "ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล" โดย สุรุจ ทิพากรเสนี
- "เพลงรักของเธอ สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล" โดย วัชระ แวววุฒินันท์
- "มนต์รักทรานซิสเตอร์" โดย มหา ศุภวัฒน์หงษา
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงชาย (Best Performance by a Male Artist)
- ธีระวัฒน์ มุลวิไล ("สถาปนา: ถังแดง")
- สายฟ้า ตันธนา ("The Cult of Monte Cristo")
- James Laver ("Boxes")
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงหญิง (Best Performance by a Female Artist)
- กิตติพร โรจน์วนิช ("The Search for Signs of Intelligent Life in the Universe")
- ดุจดาว วัฒนปกรณ์ บุญใหญ่ ("The Maids-สุขฆาตกรรม")
- สินีนาฏ เกษประไพ ("เงา-ร่าง")
การแสดงยอดเยี่ยมโดยนักแสดงกลุ่ม (Best Performance by an Ensemble)
- คณะนักแสดงเรื่อง "เงา-ร่าง"
- คณะนักแสดงเรื่อง "เสียงนั้น…ชื่อปรารถนา"
- คณะนักแสดงเรื่อง "In เธอ’s View: A Documentary Theatre"
การกำกับการแสดงยอดเยี่ยม (Best Direction of a Play/Performance/Musical)
- ธนพล วิรุฬหกุล ("Hipster the King")
- ธีระวัฒน์ มุลวิไล ("สถาปนา: ถังแดง")
- อัจจิมา ณ พัทลุง ("Boxes")
การออกแบบศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction of a Play/Performance/Musical)
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "สถาปนา: ถังแดง"
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "Boxes"
- คณะทำงานฝ่ายออกแบบเรื่อง "Hipster the King"
---------------------------------------------
*** รางวัล Lifetime Achievement Award: คำรณ คุณะดิลก ***
---------------------------------------------
งานประกาศรางวัล IATC THAILAND DANCE AND THEATRE REVIEW 2014
จะจัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เวลา 18.00 น. ขอเชิญเหล่าศิลปิน สื่อมวลชน และผู้ที่สนใจร่วมงานดังกล่าว
14 July 2013
"ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง" ที่ ม.บูรพา
พระจันทร์เสี้ยว จะไปร่วมในโครงการ Chance to Change : Film & Stage ที่ ม.บูรพา
โครงการดีๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นโอกาสในการได้รับชม และรับฟังความรู้จากศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ มากมาย ทั้งในด้านดนตรีและการแสดง
จัดขึ้นในวันที่ 14-18 , 25-27 กรกฎาคม 2556
สามารถลงชื่อเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่สถาบันวิจัยวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยบูรพา
หมายเหตุ **
เข้าร่วมชมและพูดคุยกับศิลปินผู้สร้างผลงาน ฟรี!!!
see more
http://www.facebook.com/ChanceToChangeFilmAndStage
30 June 2013
"โปรเจค 1/4" บทวิจารณ์จากนิตยสารสีสัน
"โปรเจค 1/4 เส้นทางระหว่างเขาและเธอ" คัดมาจากนิตยสารสีสัน ปีที่ 24 ฉบับที่ 10 2556
ละคร THEATRES
เขียนโดย กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน
“Project ¼ เส้นทางระหว่างเขาและเธอ” เป็นผลงานล่าสุดของคณะพระจันทร์เสี้ยวการละครซึ่งดูเหมือนจะมีกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง เป็นละครสั้นสี่เรื่องจากบทละครของ อรดา ลีลานุช กำกับโดยผู้กำกับรุ่นใหม่ 4 คน โดยตัว สินีนาฏ เกษประไพ ไปรับหน้าที่โปรดิวเซอร์
จากการเสวนาหลังละครจบ จึงทำให้ได้รู้ว่าบทของอรดานั้น มีแต่ตัวละครและบทพูด ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ สถานที่ เวลา แต่อย่างใด บทแบบนี้ ผู้กำกับละครชอบกันนัก เพราะให้อิสระในการสร้างภาพอย่างเต็มที่ รวมถึงตอนจบซึ่งเมื่อบทพูดจบไปแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับเองที่จะตัดสินใจว่าละครจะจบลงอย่างไร
ละครทั้ง 4 เรื่อง แบ่งออกเป็นเป็นเหมือนจริงสองเรื่อง และแอ็บสแทร็คท์ 2 เรื่อง แน่นอนคนดูย่อมรับเรื่องเหมือนจริงได้มากกว่า เพราะมีอะไรจับต้องได้ ในขณะที่แอ็บสแทร็คท์นั้น คนดูได้ใช้จินตนาการร่วมสร้างเรื่องราวขึ้นมาด้วย
“สายน้ำกับสายลม” กำกับโดย สุกัญญา เพี้ยนศรี แสดงโดย อรรถพล อนันตวรสกุล และตัวผู้เขียนบท อรดา ลีลานุช เป็นเรื่องของสามีภรรยาที่ความคิดไม่ตรงกัน จนในที่สุดสามีก็ต้องลงมือทำอาหารด้วยตนเอง ส่วนภรรยาก็ทำหน้าที่ซักผ้ารีดผ้า ดูจากภาพก็เหมือนครอบครัวที่มีความสุข แต่เราก็ได้เห็นความแบ่งแยก และบางครั้งก็มีการก้าวก่ายรุกล้ำซึ่งกันและกัน
เป็นเรื่องที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้มากที่สุด ดูได้เพลินที่สุดโดยเฉพาะการแสดงของทั้งคู่ เพราะโดยปกติแล้วทั้ง 2 คน ไม่ใช่นักแสดงตลกจึงออกมาในลักษณะของตลกหน้าตาย ที่ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะได้มากขึ้น
“ที่พักใจ” กำกับโดย ศิริธร ศิริวรรณ แสดงโดย อาคีรา โหมดสกุล และ เกรียงไกร ฟูเกษม ซึ่งทั้ง 2 คนมีชื่อในบทตลกโลดโผนเฮฮา จึงเป็นเรื่องที่คนดูตั้งใจมาฮากันมากที่สุด แต่กลับผิดคาด เพราะเป็นเรื่องของสามีภรรยาอีกคู่ ที่ดูจากภายนอกก็รักใคร่เอาใจใส่กันดี มีชีวิตที่ราบเรียบ ปกติสุข และผู้แสดงทั้ง 2 คน แสดงออกมาเรียบๆเหมือนภาพชีวิตประจำวัน
ในความเรียบง่ายของการแสดงออกนี่เองที่นักแสดงให้เห็นถึงฝีมือของทั้งคู่ วิธีการพูดของทั้ง 2 คนดึงเอาความหมายบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวบทออกมาให้เห็นเด่นชัด กลายเป็นแบล็คคอเมดี้ที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้โดยไม่ต้องทำตลก
“นี่ไม่ใช่บทเพลงรัก” กำกับโดย เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ แสดงโดย ณัฐนันท์ ประเสริฐรัสมี และเบน โกศลศักดิ์ หนุ่มสาวทั้ง 2 คนมาพบกันในที่แห่งหนึ่งไร้ขอบเขตกว้างขวางว่างเปล่า ทั้ง 2 คนมุ่งหาความหมายบางอย่างและไม่แน่ใจว่าจะรู้ตัวได้พบหรือไม่ หรือจะวนเวียนกันไปอย่างในละคร คือเริ่มต้นและจบลงด้วยภาพเดียวกัน
เบน โกศลศักดิ์ มีลักษณะโรแมนติคแบบฝันๆและมีความเด่นมากเวลาอยู่บนเวที ส่วนณัฏฐนันท์ ก็ดูเปราะบาง อ้างว้าง เหมาะกับเรื่องนี้มาก
“เสียงสะท้อนจากความเงียบ” กำกับโดย รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ แสดงโดย วรุฒม์ เข็มประสิทธิ์ และ เววิรี อิทธิอนันตกุล เป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีมาก ทั้งรูปร่างหน้าตา และการรับส่งบท หนุ่มสาว 2 คนที่มาอยู่ด้วยกันในสถานที่ที่ระบุว่าเป็นแพ แต่อยู่ที่ไหนไม่รู้ และดูไม่มีทางออก ในขณะที่คนหนึ่งกำลังตามหาอะไรบางอย่าง อีกคนหนึ่งก็พยายามหลีกหนีไปเหมือนกัน
เรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงเสียงประกอบที่เป็นเสียงปืนดังมาจากภายนอกเป็นระยะๆและเสียงวิทยุรายงานข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายรัฐและประชาชน
สองเรื่องหลังนี้ออกแนวแอ็บสแทร็คท์ที่ผู้ชมต้องคิดและตีความเอาเอง แต่การตีความของตัวผู้กำกับเองก็เด่นชัดมาก (เกินไป?) ด้วยการมีของประกอบฉาก องแรกนั้นมีกระดาษพับเป็นรูปเรือแบบที่ใช้ในพิธีกงเต๊ก ส่วนเรื่องที่ 2 นอกจากเสียงประกอบแล้วก็ยังมีตุ๊กตานอนกลาดเกลื่อนอยู่บนพื้นอีกด้วยออกไป
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของละคร 4 เรื่องนี้ ก็คือการใช้พื้นที่ในการแสดง เป็นโรงละครเล็กๆแต่ก็ดูกว้างขวางเมื่อมีผู้แสดงเพียง 2 คน การจัดตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของตัวละครจึงต้องทำให้ดู้ต็มเวทีและก็ทำได้ดี โดยเฮพาะทั้ง 4 เรื่องเป็นเรื่องที่ดูไร้ขอบเขตของฉาก แต่กลับต้องแสดงถึงความคับแคบที่ตัวละครต้องการหลบหนี ในส่วนนี้ “นี่ไม่ใช่บทเพลงรัก” ทำได้ดีที่สุด เพราะตามเรื่องแล้วฉากของเขากว้างที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการใช้พื้นที่ของโรงละครให้เป็นประโยชน์มากขึ้นกว่าเรื่องอื่นๆที่เคยมาแสดงกันที่นี่ เช่นหน้าต่างกระจกซึ่งปกติจะใช้ม่านปิดเอาไว้ หรือพื้นที่ที่เป็นซอกเล็กๆข้างโรงที่ไม่เคยใช้กันเลย
ที่สำคัญคือโรงละครพระจันทร์เสี้ยวที่ปกติจะรับคนดูได้เพียง 30 คน ในบางรอบต้องจัดที่นั่งให้คนดูถึง 50 คน
ภาพถ่ายโดย
อดิเดช ชัยวัฒนกุล
ป้ายกำกับ:
โปรเจค 1/4,
โรงละครพระจันทร์เสี้ยว,
ละครเวที พระจันทร์เสี้ยว,
ละครสั้น
27 June 2013
"ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง" บทวิจารณ์จากนิตยสารสีสัน
สองเรื่องกับอีกสองคน
บางส่วนมาจากนิตยสารสีสัน ปีที่ 24 ฉบับที่ 9 2556
ละคร THEATRES เขียนโดย กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน
ปีนี้นักเขียนสตรีชื่อดัง ศรีดาวเรือง มีอายุครบ 72 ปีแล้ว ในวาระนี้ พระจันทร์เสี้ยวการละคร โดยศิลปินศิลปาธร สินีนาฏ เกษประไพ ร่วมฉลองด้วยละครเรื่อง “ภาพลวงตาจากการเปลี่ยนสรรพนาม” และ “เนินมะเฟือง”
สำหรับคนชนบทในยุคก่อนสถานีรถไฟคือศูนย์กลางย่อมๆของชุมชนมีทั้งร้านขายของ ร้านขายหนังสือพิมพ์ พ่อค้าแม่ค้าที่เร่ขายของให้คนบนรถไฟ ผู้คนที่ทั้งไปและมาโดยรถไฟ เรื่องสั้นจำนวนไม่น้อยของศรีดาวเรืองจึงเป็นเรื่องราวของชุมชนนี้และการเดินทางโดยรถไฟ
เรื่องแรกเป็นความรักความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวสองคนจากย่านชานเมืองที่อาศัยรถไฟเป็นพาหนะเดินทางเข้าไปทำงานในเมืองอยู่ทุกวัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้น โดยมีสายตาของผู้โดยสารจำนวนหนึ่งเป็นประจักษ์พยาน
ศรีดาวเรือง เขียนเรื่องนี้โดยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสายตาของตัวละครหลายๆคน ทั้งชายหนุ่ม หญิงสาว และผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีภาพและจินตนาการในมุมมองของตนเอง เห็นและคิดเกี่ยวกับความเป็นไปนั้นแตกต่างกันออกไปตามสายตาของตนเอง ซึ่งในส่วนนี้ละครได้ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน โดยบทพูดของตัวละครแต่ละคน ซึ่งทำได้เป็นธรรมชาติมาก เราได้เห็นเรื่องราวดำเนินไปพร้อมๆกับการวิพากษ์จากสายตาที่แตกต่างกันของตัวละคร
หญิงสาวคนนั้นมีสามีแล้วแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคความรักของเธอ ฝ่ายชายไม่กังขาในเรื่องนี้เมื่อเธอเลิกกับสามีก็ดูเหมือนว่าเรื่องจะลงเอยลงด้วยดี ทั้งสองมีโอกาสหลับนอนร่วมกัน แล้วเธอก็ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา เลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียวพร้อมลูกในครรภ์
ในส่วนการเล่าเรื่องของหญิงสาว เธอไม่ได้พูดถึงเหตุผลอันแท้จริงว่าทำไมเธอจึงไม่ยอมแต่งงานกับเขา เพียงแต่มันเป็นทางเลือกของเธอเท่านั้น ตัวละครตัวอื่นๆก็ไม่สามารถจะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้ เรื่องจบลงด้วยการทิ้งปริศนาให้คนดูเอาไปคิดกันเอง
เรารู้ว่าเธอได้หลับนอนกับเขาหลังจากเลิกกับสามี แต่เธอได้หลับนอนกับเขาก่อนที่จะเลิกกับสามีหรือเปล่า หรือว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอเลิกกับสามี เด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเขาหรือของสามี และที่สำคัญ ทำไม เธอจึงปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา
“เนินมะเฟือง” เป็นเรื่องราวของผู้คนหลากหลายในชุมชนสถานีรถไฟ ชีวิตของเด็กหนุ่มสาว 4 คน ดำเนินไปที่สถานีรถไฟแห่งนี้ เด็กสาวคนหนึ่งมีอาชีพขายตัว เป็นโสเภณีเด็กก่อนที่จะได้ใช้คำว่านางสาวนำหน้า โดยมีเด็กชายเป็นนายหน้าให้ เด็กสาวอีกคนพบความรักกับครูหนุ่ม แต่พ่อของเธอเรียกค่าสินสอดที่เกินกำลังของครูจนๆ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจหนีเข้าเมืองไปประกอบอาชีพเป็นโสเภณี เด็กสาวคนที่ 3 เป็นคนขี้เหร่ แต่เธอก็ขยันทำมาหากิน และในที่สุดเธอก็ได้พบกับความรัก และมีความสุขในชีวิตสมรส
เรื่องแรกนั้น ดูเป็นเรื่องโรแมนติค มีบทกระจุ๋มกระจิ๋มของหนุ่มสาวให้พร้อมอมยิ้มกันได้ รวมทั้งบทของชาวบ้านบนรถไฟที่มีความหลากหลาย แม้ในตอนท้ายจะเป็นการลาจากกันก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีการคร่ำครวญหวนหา แต่กินใจคนดูพอสมควรทีเดียว ส่วนเรื่องหลังเป็นประเด็นของความจริงในชีวิตที่ค่อนข้างจะแรง แต่ก็ยังคงลักษณะเรียบง่ายเหมือนจริงอยู่ ไม่มีการบีบคั้นอารมณ์ให้ฟูมฟายแต่อย่างไร
แต่ความเหมือนจริงของการแสดงนี่แหละที่ทำให้คนดูต้องสะท้อนในใจ เมื่อมาคิดว่ามันมีอยู่จริงๆโดยเฉพาะประเด็นโสเภณีเด็กในเรื่องหลัง ภาพของเด็กชายหญิงนอนหนุนรางรถไฟคุยกันในยามไม่มีลูกค้าสะเทือนใจคนดูมาก เพราะเห็นว่าสองคนยังเป็นเด็ก และทำทุกอย่างไปเพราะความเป็นเด็กนั่นเอง ความจริงในเรื่องที่ 2 ทำให้ความหวานของเรื่องแรกนั้นกลายเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้นเอง
สินีนาฏ ดึงประเด็นสำคัญจากเรื่องของ ศรีดาวเรือง ออกมาแสดงได้ชัดเจนมากคือความเป็นอิสระของตัวละครฝ่ายหญิง หญิงสาวในเรื่องแรกเป็นคนเลือกที่จะอยู่คนเดียว เป็น sigle mom โดยไม่สนใจความต้องการของฝ่ายชาย เด็กหญิงยึดอาชีพขายตัวโดยไม่มีใครมาบีบบังคับ และเด็กสาวอีกคนก็เช่นกัน เธอตัดสินใจไปขายตัวดีกว่าที่จะยอมเป็นสินค้าให้พ่อขาย
บางส่วนมาจากนิตยสารสีสัน ปีที่ 24 ฉบับที่ 9 2556
ละคร THEATRES เขียนโดย กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน
ปีนี้นักเขียนสตรีชื่อดัง ศรีดาวเรือง มีอายุครบ 72 ปีแล้ว ในวาระนี้ พระจันทร์เสี้ยวการละคร โดยศิลปินศิลปาธร สินีนาฏ เกษประไพ ร่วมฉลองด้วยละครเรื่อง “ภาพลวงตาจากการเปลี่ยนสรรพนาม” และ “เนินมะเฟือง”
สำหรับคนชนบทในยุคก่อนสถานีรถไฟคือศูนย์กลางย่อมๆของชุมชนมีทั้งร้านขายของ ร้านขายหนังสือพิมพ์ พ่อค้าแม่ค้าที่เร่ขายของให้คนบนรถไฟ ผู้คนที่ทั้งไปและมาโดยรถไฟ เรื่องสั้นจำนวนไม่น้อยของศรีดาวเรืองจึงเป็นเรื่องราวของชุมชนนี้และการเดินทางโดยรถไฟ
เรื่องแรกเป็นความรักความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวสองคนจากย่านชานเมืองที่อาศัยรถไฟเป็นพาหนะเดินทางเข้าไปทำงานในเมืองอยู่ทุกวัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้น โดยมีสายตาของผู้โดยสารจำนวนหนึ่งเป็นประจักษ์พยาน
ศรีดาวเรือง เขียนเรื่องนี้โดยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสายตาของตัวละครหลายๆคน ทั้งชายหนุ่ม หญิงสาว และผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีภาพและจินตนาการในมุมมองของตนเอง เห็นและคิดเกี่ยวกับความเป็นไปนั้นแตกต่างกันออกไปตามสายตาของตนเอง ซึ่งในส่วนนี้ละครได้ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน โดยบทพูดของตัวละครแต่ละคน ซึ่งทำได้เป็นธรรมชาติมาก เราได้เห็นเรื่องราวดำเนินไปพร้อมๆกับการวิพากษ์จากสายตาที่แตกต่างกันของตัวละคร
หญิงสาวคนนั้นมีสามีแล้วแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคความรักของเธอ ฝ่ายชายไม่กังขาในเรื่องนี้เมื่อเธอเลิกกับสามีก็ดูเหมือนว่าเรื่องจะลงเอยลงด้วยดี ทั้งสองมีโอกาสหลับนอนร่วมกัน แล้วเธอก็ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา เลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียวพร้อมลูกในครรภ์
ในส่วนการเล่าเรื่องของหญิงสาว เธอไม่ได้พูดถึงเหตุผลอันแท้จริงว่าทำไมเธอจึงไม่ยอมแต่งงานกับเขา เพียงแต่มันเป็นทางเลือกของเธอเท่านั้น ตัวละครตัวอื่นๆก็ไม่สามารถจะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้ เรื่องจบลงด้วยการทิ้งปริศนาให้คนดูเอาไปคิดกันเอง
เรารู้ว่าเธอได้หลับนอนกับเขาหลังจากเลิกกับสามี แต่เธอได้หลับนอนกับเขาก่อนที่จะเลิกกับสามีหรือเปล่า หรือว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอเลิกกับสามี เด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเขาหรือของสามี และที่สำคัญ ทำไม เธอจึงปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา
“เนินมะเฟือง” เป็นเรื่องราวของผู้คนหลากหลายในชุมชนสถานีรถไฟ ชีวิตของเด็กหนุ่มสาว 4 คน ดำเนินไปที่สถานีรถไฟแห่งนี้ เด็กสาวคนหนึ่งมีอาชีพขายตัว เป็นโสเภณีเด็กก่อนที่จะได้ใช้คำว่านางสาวนำหน้า โดยมีเด็กชายเป็นนายหน้าให้ เด็กสาวอีกคนพบความรักกับครูหนุ่ม แต่พ่อของเธอเรียกค่าสินสอดที่เกินกำลังของครูจนๆ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจหนีเข้าเมืองไปประกอบอาชีพเป็นโสเภณี เด็กสาวคนที่ 3 เป็นคนขี้เหร่ แต่เธอก็ขยันทำมาหากิน และในที่สุดเธอก็ได้พบกับความรัก และมีความสุขในชีวิตสมรส
เรื่องแรกนั้น ดูเป็นเรื่องโรแมนติค มีบทกระจุ๋มกระจิ๋มของหนุ่มสาวให้พร้อมอมยิ้มกันได้ รวมทั้งบทของชาวบ้านบนรถไฟที่มีความหลากหลาย แม้ในตอนท้ายจะเป็นการลาจากกันก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีการคร่ำครวญหวนหา แต่กินใจคนดูพอสมควรทีเดียว ส่วนเรื่องหลังเป็นประเด็นของความจริงในชีวิตที่ค่อนข้างจะแรง แต่ก็ยังคงลักษณะเรียบง่ายเหมือนจริงอยู่ ไม่มีการบีบคั้นอารมณ์ให้ฟูมฟายแต่อย่างไร
แต่ความเหมือนจริงของการแสดงนี่แหละที่ทำให้คนดูต้องสะท้อนในใจ เมื่อมาคิดว่ามันมีอยู่จริงๆโดยเฉพาะประเด็นโสเภณีเด็กในเรื่องหลัง ภาพของเด็กชายหญิงนอนหนุนรางรถไฟคุยกันในยามไม่มีลูกค้าสะเทือนใจคนดูมาก เพราะเห็นว่าสองคนยังเป็นเด็ก และทำทุกอย่างไปเพราะความเป็นเด็กนั่นเอง ความจริงในเรื่องที่ 2 ทำให้ความหวานของเรื่องแรกนั้นกลายเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้นเอง
สินีนาฏ ดึงประเด็นสำคัญจากเรื่องของ ศรีดาวเรือง ออกมาแสดงได้ชัดเจนมากคือความเป็นอิสระของตัวละครฝ่ายหญิง หญิงสาวในเรื่องแรกเป็นคนเลือกที่จะอยู่คนเดียว เป็น sigle mom โดยไม่สนใจความต้องการของฝ่ายชาย เด็กหญิงยึดอาชีพขายตัวโดยไม่มีใครมาบีบบังคับ และเด็กสาวอีกคนก็เช่นกัน เธอตัดสินใจไปขายตัวดีกว่าที่จะยอมเป็นสินค้าให้พ่อขาย
16 May 2013
ละครแพ็คสี่เรื่องของ 'โปรเจค 1/4'
'โปรเจค 1/4' จากบทละครสั้นสี่เรื่อง เขียนโดย อรดา ลีลานุช จะถูกนำมาจัดแสดงพร้อมกันโดยฝีมือการกำกับของผู้กำกับ 4 คน เป็นภาพเบลอๆของความสัมพันธ์ผู้หญิงกับผู้ชาย 4 คู่
"นี่ไม่ใช่บทเพลงรัก"
นักแสดง : ณัฎฐนันท์ ประเสริฐรัสมี,เบ็น โกศลศักดิ์
ผู้กำกับ : เบญจ์ บุษราคัมวงศ์
"เสียงสะท้อนจากความเงียบ"
นักแสดง : วรุตม์ เข็มประสิทธิ์, เววิรี อิทธิอนันต์กุล
ผู้กำกับ : รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ
"ที่พักใจ"
นักแสดง : อาคีรา โหมดสกุล, เกรียงไกร ฟูเกษม
ผู้กำกับ : ศิริธร ศิริวรรณ
"สายน้ำกับสายลม"
นักแสดง : อรรถพล อนันตวรสกุล, อรดา ลีลานุช
ผู้กำกับ : สุกัญญา เพี้ยนศรี
แสดงวันที่ 23-26, 30-31 พ.ค. และ 1-2 มิ.ย. 2556 (รอบ 19.30 น.)
ที่โรงละครพระจันทร์เสี้ยว สถาบันปรีดี พนมยงค์ (ซ.ทองหล่อ)
บัตรราคา 350 บาท
จองบัตรโทร 081 929 4246 และ 084 174 2729
05 May 2013
แนะนำผู้เขียนบทโปรเจค 1/4
ประวัติผู้เขียนบท
อรดา ลีลานุช
เริ่มสนใจละครเวทีและเข้าร่วมเวิร์คชอปละครเวทีตอนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นได้ทุนไปศึกษาต่อที่ St. Olaf College และจบปริญญาตรีทางด้าน Theatre เริ่มเขียนบทละครเวทีตอนศึกษาระดับปริญญาโทที่ Miami University และจากนั้นก็เขียนบทละครมาตลอด มีผลงานการเขียนบทละครทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย ผลงานล่าสุดที่ผ่านมาคือเรื่อง หญิงสาวกับดวงดาว แสดงที่ The Reading Room
27 January 2013
ละครสั้นศรีดาวเรือง "ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง"
พระจันทร์เสี้ยวการละคร เสนอ ละครสั้นศรีดาวเรือง
เพื่อร่วมแสดงความยินดีในวาระอายุครบ 6 รอบ และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ในวงการนักเขียนของศรีดาวเรือง นักเขียนหญิงที่เราชื่นชม
ละครสั้นสองเรื่องควบจากบทประพันธ์ของ ศรีดาวเรือง
... ...เส้นทางรางชีวิตของตัวละครจากเรื่องสั้น ‘ภาพลวงตาของการเปลี่ยนสรรพนาม’ และนวนิยายขนาดสั้น ‘เนินมะเฟือง’ กับเรื่องราวชีวิตเล็กๆ ข้างรางรถไฟ...
แสดงโดย
จิรัชพงษ์ เรืองจันทร์
ดลฤดี จำรัสฉาย
ณัฎฐนันท์ ประเสริฐรัศมี
เบญจ์ บุษราคัมวงศ์
สินีนาฏ เกษประไพ
สุขุมพันธ์ ฐิติธนพันธ์
เบียร์ ยิ่งสุวรรณชัย
ธีรกานต์ ไม้จันทร์
กำกับโดย
สินีนาฏ เกษประไพ
แสดงวันที่ 27-31 มีนาคม 2556 เวลา 19.30 น.
(เสาร์ –อาทิตย์ เพิ่มรอบ 15.00 น.)
ที่ โรงละครพระจันทร์เสี้ยว (สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซ.ทองหล่อ)
บัตรราคา 350 บาท (นักศึกษา 300 บาท)
จองบัตรที่ 081 929 4246 และ 084 174 2729
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.crescentmoontheatre.org/
See more
http://www.facebook.com/CrescentMoonTheatre/
เพื่อร่วมแสดงความยินดีในวาระอายุครบ 6 รอบ และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ในวงการนักเขียนของศรีดาวเรือง นักเขียนหญิงที่เราชื่นชม
“ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง”
ละครสั้นสองเรื่องควบจากบทประพันธ์ของ ศรีดาวเรือง
... ...เส้นทางรางชีวิตของตัวละครจากเรื่องสั้น ‘ภาพลวงตาของการเปลี่ยนสรรพนาม’ และนวนิยายขนาดสั้น ‘เนินมะเฟือง’ กับเรื่องราวชีวิตเล็กๆ ข้างรางรถไฟ...
แสดงโดย
จิรัชพงษ์ เรืองจันทร์
ดลฤดี จำรัสฉาย
ณัฎฐนันท์ ประเสริฐรัศมี
เบญจ์ บุษราคัมวงศ์
สินีนาฏ เกษประไพ
สุขุมพันธ์ ฐิติธนพันธ์
เบียร์ ยิ่งสุวรรณชัย
ธีรกานต์ ไม้จันทร์
กำกับโดย
สินีนาฏ เกษประไพ
แสดงวันที่ 27-31 มีนาคม 2556 เวลา 19.30 น.
(เสาร์ –อาทิตย์ เพิ่มรอบ 15.00 น.)
ที่ โรงละครพระจันทร์เสี้ยว (สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซ.ทองหล่อ)
บัตรราคา 350 บาท (นักศึกษา 300 บาท)
จองบัตรที่ 081 929 4246 และ 084 174 2729
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.crescentmoontheatre.org/
See more
http://www.facebook.com/CrescentMoonTheatre/
Subscribe to:
Posts (Atom)