03 February 2015

Mai Pen Rai Project : performance


----------
About Performance :
29-30 Jan/Time 7.30 pm
----------




1.“Cyprinus parpio Princess”
By Dongjo Park
ความรักของมนุษย์กับปลาคาร์พก็เหมือนกันฟองสบู่
A bubble like love of a human and a Carp



2.“Unforgettable Love”
Directed by Minsun Park
Performed by Dongjo Park, Seul Lee, Sunok Park



3."GomGom"
By Siyeon Kim
physical performance based on GomGom, a poem about the founding myth of ancient Korea.
 *** แสดงเฉพาะวันที่ 29 ม.ค. / perform only 29 Jan. ***



4."Night Trip"
การแสดงละครใบ้ โดย ศิลปินจากคณะ Kkun
By Junyeong Kim, Jeongsan Choi, Hyungkyung Yang
ในยามค่ำคืนที่แสนมืดมิด พวกเขาทั้งสามเดินเข้าไปในป่าลึก “อะไร” คือ สิ่งที่พวกเขากำลังค้นหา
In a very deep night, three people go into the forest. What are they looking for in the forest?



5."Aging- Like the river flow"
By Sunok Park



6.“Fish contained in the basin”
By Soeun Kim
การแสดงเดี่ยวในบ่อน้ำพุ
Solo performance that occurs in water boundary





Organized by Crescent Moon Theatre
Coordinated by Ladda Kongdach
Lighting Desinged by Tawit Keitprapai




ขอขอบคุณ สถาบันปรีดี พนมยงค์
ทีมงานและอาสามัครทุกคน

Mai Pen Rai Project : workshop

----------
About Workshop :
27 Jan/Time 12.00 - 5.00 pm
----------


3 Exchange Workshop by
Minsun Park
Dongjo Park
Sineenadh Keitprapai










Special Thanks :
Pridi Bamomyong Institute
Root Garden

Mai Pen Rai Project

จบไปแล้วกับงานแรกของปี เป็นโครงการแลกเปลี่ยนกับเพื่อนศิลปินจากเกาหลีใต้ซึ่งมาจากหลายกลุ่มละครและศิลปินอิสระ งานมีชื่อว่า Mai Pen Rai Project มีสองส่วนคือ เวริคชอป กับ การแสดง  


พระจันทร์เสี้ยวการละคร ร่วมกับ ศิลปินจากประเทศเกาหลีใต้ เสนอ
Bangkok - Seoul International Exchange Program


Mai Pen Rai Project

6 การแสดงจากศิลปินชาวเกาหลีใต้ทั้ง 9
6 showcase from 9 Artists

Junyeong Kim, Jeongsan Choi, Hyungkyung Yang, Siyeon Kim, Minsun park, Sunok Park, Seul Lee, Dongjo Park, Soeun Kim
Jan 29 ~ 30, 2015
Time 7.30 pm
@ Crescent Moon Space (soi Thong-Lor)
ที่ โรงละครพระจันทร์เสี้ยว (สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซ.ทองหล่อ)

Donate for admission
รับการบริจาคเพื่อสนับสนุนจัดการแสดง

Reservations: 081 929 4246, 086 797 1445
----------
27 Jan
Exchange Workshop Day
----------
29-30 Jan
Performance : Time 7.30 pm
----------

13 January 2015

ทำความรู้จัก คณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก)



ทำความรู้จัก คณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก)

คณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก) เป็นโครงการร่วมมือกันระหว่างพระจันทร์เสี้ยวการละครและมูลนิธิไชยวนา โดยมีจุดเริ่มต้นที่นักละครจากพระจันทร์เสี้ยวการละคร ได้ผ่านการศึกษาเรียนรู้จากมูลนิธิไชยวนาและบรรดาลูกศิษย์ของครูองุ่น มาลิก จนเกิดความประทับใจและศรัทธาต่อการอุทิศตนสร้างสรรค์ละคร “หุ่นผ้าขี้ริ้ว” ที่ครูได้ทำและแจกจ่ายให้กับเด็กๆและเยาวชนด้อยโอกาส และชักชวนลูกศิษย์ลูกหาสร้างสรรค์ละครหุ่นออกไปแสดงตามชุมชนต่างๆ ในชื่อ คณะครูองุ่น จนกระทั่งช่วงท้ายของชีวิต



พระจันทร์เสี้ยวการละครและกลุ่มเพื่อนอาสาสมัครจึงมารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมละครหุ่นให้แก่เด็กเยาวชนและครอบครัว โดยใช้ชื่อ คณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงครูองุ่นและสืบสานปธิธานความคิดของครูต่อไป  โดยเริ่มโครงการและทำกิจกรรมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2544  เป็นต้นมา


การทำงานของคณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก)ในปัจจุบัน มีทั้งการแสดงละครหุ่นมือ จัดกิจกรรมเล่านิทาน อบรมทำหุ่น อบรมแสดงละครหุ่นให้แก่เด็กและเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์จากเศษวัสดุ เพื่อเป็นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การเล่นและการเรียนรู้ของเด็กๆและเยาวชน

01 January 2015

Happy New Year 2015



สวัสดีปีใหม่ 2558

31 December 2014

สรุปพระจันทร์เสี้ยว ปี 2557


สรุปงานละครการแสดงและกิจกรรมของพระจันทร์เสี้ยว ปี ๒๕๕๗

มกราคม
• ๓๐ ม.ค. - ๔ ก.พ.  ละครเวทีเรื่อง "ในห้องสีเทา" (In the Grey Room) บทโดย อรดา ลีลานุช กำกับโดย สุกกัญญา เพี้ยนศรี

กุมภาพันธ์

• ๖-๑๐ ก.พ. ละครเวทีเรื่อง "ในห้องสีเทา" (In the Grey Room) บทโดย อรดา ลีลานุช กำกับโดย สุกกัญญา เพี้ยนศรี (จำนวน ๑๐ รอบ)

มีนาคม

• ๑๐-๑๒ มีนาคม อบรมละครเบรคชท์ ให้กับนักศึกษาละคร คณะอักษร มหาวิทยาลัยศิลปากร (ทับแก้ว) ณ ห้องประชุม A4
• ๒๓ มีนาคม การแสดง "เงา-ร่าง" (Shade Borders) แรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะร่วมสมัยของ พินรี สัณฑ์พิทักษ์ กำกับโดย  สินีนาฏ เกษประไพ สิลปินรางวัลศิปาธร ปี ๒๕๕๑ ร่วมแสดงในงาน ทศวรรษศิลปะร่วมสมัยสร้างสรรค์  ณ โรงละครช้าง ประชาอุทิศ ๖๑ และมีเสวนาหลังการแสดง (จำนวนการแสดง ๑ รอบ)
• ๒๗-๓๑ มีนาคม อบรมเขียนบทละครสร้างสรรค์ ครั้งที่ ๓ (Creative Writing Workshop #3) สอนโดย อรดา ลีลานุช

เมษายน
• ๑-๔ เมษายน จัดอบรมการแสดง Back to Basic ครั้งที่ ๗ สอนโดย สินีนาฏ เกษประไพ
• ๕-๘ เมษายน จัดอบรมออกแบบแสง Lighting Workshop ครั้งที่ ๗ สอนโดย ทวิทธิ์ เกษประไพ
• ๒๖-๒๗ เมษายน เทศกาลละครยี่สิบสี่ชั่วโมง (24 hr Festival) ครั้งแรกกับการรวมตัวของนักเขียนบท ผู้กำกับ นักแสดงและทีมงาน กับการการเขียนบทละครใหม่และจัดแสดงภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง นำกระบวนการโดย อรดา ลีลานุช จัดแสดงละครสั้นทั้งหมด ๕ เรื่อง คือ
สิ่งที่ไม่เคยบอก บทละคร : วิชญ์พล ดิลกสัมพันธ์  กำกับการแสดง : นภัค ไตรเจริญเดช
Second Chance บทละคร : ภัทรียา พัวพงศกร
ต้องสู้ถึงจะชนะ บทละคร : ภาณุรุจ เหลืองไพฑูรย์  กำกับการแสดง : พีรพล กิจรื่นภิรมย์สุข
คนเก็บขยะ  บทละคร : รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ  กำกับการแสดง : เบญจ์ บุษราคัมวงศ์
เหตุเกิดที่ ที่เกิดเหตุ  บทละคร : จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ  กำกับการแสดง : ศรุต โกมลลิทธิพงศ์

พฤษภาคม
• เปิดรับบทใหม่ในโครงการ “๑๐ Minute Play” ครั้งที่ ๓ พระจันทร์เสี้ยวประกาศขอเชิญชวนคนรักเขียน ส่งบทละครสั้นที่เขียนขึ้นใหม่และยังไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน มาเข้ารับการคัดเลือกกับเรา แบบไม่จำกัดตัวละคร ไม่จำกัดประเด็น แต่จำกัดความยาวประมาณ ๑๐-๑๕ นาที เปิดรับสมัครตั้งแต่ ๑๐ เม.ย. – ๓๑ พ.ค. ๕๗ มีผู้สนใจส่งบทละครสั้นมาร่วมโครงการทั้งหมด ๖๒ เรื่อง แต่มีบทละครที่น่าสนใจเข้าโครงการ ๕ เรื่อง

มิถุนายน
• งานรำลึกครูองุ่น มาลิก มหกรรมการแสดงแสนหรรษา ครั้งที่ ๑๖
• ๒๖-๒๙ มิ.ย. จัดอบรมการแสดง Back to Basic ครั้งที่ ๘ สอนโดย สินีนาฏ เกษประไพ

กรกฎาคม
• ๑๑-๑๔ ก.ค. จัดอบรมออกแบบแสง Lighting Workshop ครั้งที่ ๘ สอนโดย ทวิทธิ์ เกษประไพ
• ๑๗-๒๐ ก.ค. อบรมเขียนบทละครสร้างสรรค์ ครั้งที่ ๔ (Creative Writing Workshop #4) สอนโดย อรดา ลีลานุช
• ๒๔-๒๗ ก.ค. อบรมเขียนบทละครสร้างสรรค์ ครั้งที่ ๕ (Creative Writing Workshop #5) สอนโดย อรดา ลีลานุช

สิงหาคม
• ๑๕-๑๗ ส.ค. การแสดง "เงา-ร่าง" (Shade Borders) กำกับโดย สินีนาฏ เกษประไพ ร่วมแสดงในงานเทศกาลศิลปะการแสดง PAF Performative Art Festival #3  แสดงที่ ห้องสตูดิโอ ชั้น ๔ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร การแสดงจำนวน ๕ รอบ และจัดแสวนาหลังละคร ๑ ครั้ง
• ๓๐-๓๑ ส.ค. การแสดงละครสั้น "10 Minute Play 2+3" จำนวน ๔ รอบ มีทั้งหมด ๘ เรื่อง คือ
“หนึ่งวา”  บท กอใจ อุ่ยวัฒนพงศ์  กำกับ สุกัญญา เพี้ยนศรี  นักแสดง ณัฐติพงษ์ บุณพ่วง ,ณัฐนรี สำราญสุขวัฒน์
“เกมชีวิต” บท ประดิษฐ ประสาททอง กำกับ สินีนาฏ เกษประไพ  นักแสดง วัลลภ แสงจ้อย, ภูริณัฐ บงสุนันท์
“Flowers in the Planes” บท เกรียงไกร ฟูเกษม กำกับ สินีนาฏ เกษประไพ นักแสดง  อดิเดช ชัยวัฒนกุล, ปาลิตา สกุลชัยวานิช
“ฟลามิงโก้สีชมพู” บท เกรียงไกร ฟูเกษม กำกับ สายฟ้า ตันธนา นักแสดง ศุภสวัสดิ์ บุรณเวช, ศุภชัย พันธุ์ชัย
“ทางเลือกที่ 1377” บท วาดฝันย์  ดิลิกสัมพันธ์ กำกับ  ลัดดา คงเดช นักแสดง  ธนภูมิ คงอนันตพันธ์, ธนพนธ์  อัคควทัญญู 
“อาจไม่ใช่บทละคร” บท รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ ผู้กำกับ เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ นักแสดง รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ, เบียร์ ยิ่งสุวรรณชัย, กวิน พิชิตกุล
“ในคืนหนึ่ง” บท สุมณฑา สวนผลรัตน์ ผู้กำกับ วิชย อาทมาท นักแสดง ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร,  วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล
“ยอดมุนุษย์”  บท จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ ผู้กำกับ ศรุต โกมลิทธิพงศ์ นักแสดง  วัฒนชัย ตรีเดชา, กวิน พิชิตกุล, เบญจ์ บุษราคัมวงศ์
นำกระบวนการโดย ภาสกร อินทุมาร, อรดา ลีลานุช, สินีนาฏ เกษประไพ  จัดแสดง ๔ รอบ

ตุลาคม
• ๔-๕ ต.ค. การแสดงอ่านบทละคร "อ่านเรื่องเพศ"  บางส่วนบางตอนจากหนังสือจัดแสดงในรูปแบบการอ่านบทละคร ๘ เรื่องสั้น คือ
"แนท"  จากเรื่องสั้นเรื่อง "นัท" ในหนังสือ 'รวมเรื่องสั้น 2 นน รัตนคุปต์' เขียนโดย นน รัตนคุปต์
โดย ฐิตวินน์ คำเจริญ  นักแสดง รัชชัย รุจิวิพัฒน์ และ ฐิตวินน์ คำเจริญ
“How to spot a lesbian” จากรายการ แสกนเกย์  โดย ภัทรนันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา  นักแสดง วัฒนชัย ตรีเดชา สวนีย์ อุทุมมา กิตติพร โรจน์วณิช วรัฏฐา ทองอยู่
“For Better or Worse” จากชีวประวัติและความรักของเบนจามิน บริตเทน และ ปีเตอร์ เพียร์ส นักประพันธ์ดนตรีและนักร้องเพลงคลาสสิกชาวอังกฤษ  บางส่วนจากเว็บไซต์ Huffington Post , หนังสือพิมพ์ Telegraph และข้อมูลเว็บไซต์มูลนิธิบริตเทน - เพียร์ส  โดย ศรุพงษ์ สุดประเสริฐ และ กรินทร์ ใบไพศาล  นักแสดง ศรุพงษ์ สุดประเสริฐ
"บทสนทนาจากภาพยนตร์วีคเอนส์"  Weekend (2011)  Written by Andrew Haigh ทนกิด แปล / วิชย เรียบเรียง โดย วิชย อาทมาท  นักแสดง จิรกิตติ์ สุนทรลาภยศ และ ฐิตวินน์ คำเจริญ
“รันทดและงดงาม” บางส่วนจากหนังสือ “รันทดและงดงาม” ของ ของ ยาสุนาริ คาวาบาตะ
โดย ลัดดา คงเดช  นักแสดง  มาเรียน พุ่มอ่อน และ อรดา ลีลานุช
"อะ คอรัส ไลน์" บางส่วนจากมิวสิคัลเรื่อง "อะ คอรัส ไลน์" แสดงโดย ปัถวี เทพไกรวัล
“บันทึกของตุ๊ด” บางส่วนบางตอนจากหนังสือ "บันทึกของตุ๊ด" ของผู้เขียน คุณช่าหรือคุณกัส  โดย ปฏิพล อัศวมหาพงษ์  นักแสดง ณัฐติพงษ์ และ บุญพ่วง ปฏิพล อัศวมหาพงษ์
“เป็นประกาย” ของ เอคุนิ คาโอริ  โดย สายฟ้า ตันธนา  นักแสดง  เววิรี อิทธิอนันต์กุล, จิรวัฒน์ ชาญเชี่ยว และ ศุภชัย จิวพันธุ์ชัย
จัดแสดง ๔ รอบ และมีเสวนาหลังการแสดง ๒ ครั้ง ร่วมแสดงในงานเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์ ๗
นำกระบวนการโดย สินีนาฏ เกษประไพ

พฤศิกายน-ธันวาคม
• ลัดดา คงเดช ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการในระดับนานาชาติ Tutbat Arts Residency ในระหว่างวันที่ ๒๔ พ.ย. ถึง ๖ ธ.ค. ที่ Tutbat Art Farm, Hwacheon-gun, Gangwon-do, ประเทศเกาหลีใต้  

*** ยังไม่รวมกิจกรรม คณะละครยายหุ่น (ครูองุ่น มาลิก) ***

10 May 2014

ทำอย่างไรให้โง่


สูจิบัตร ทำอย่างไรให้โง่


นักแสดง

ฐิตวินน์ คำเจริญ (ดีเจ ปาล์ม Fat Radio)
ปี 2540 เคยแสดงละครกับพระจันทร์เสี้ยวการละคร เรื่อง หมู่บ้านจกจ้วง และ นายและนางสาว
มาราธอน หายจากวงการละครเวทีไปหลายปี และเริ่มกลับมาแสดงละครอีกครั้งใน The Odd couple
และ ฉุยฉายเสน่หา ตอนนี้กำลังจะตกงานจากการเป็นดีเจมา 13 ปี ที่ Fat Radio ซึ่งเป็นภาวะเดียวกับ
ตัวละครในเรื่องนี้ และเกลียดฝรั่งเศสมาก รับบทเป็น อองตวน ตัวเอกของเรื่อง M.Antoine”ทำอย่างไรให้โง่”


ศิรเมศร์ อัครภากุลเศรษฐ์ (ศิรเมศร์ จอมซน)
จบวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ นักแสดงมากความสามารถจากกลุ่มละคร New Theatre
Society มีผลงานการแสดงต่างๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังละครเวที ละครเพลง ทีวี โฆษณาและ ผลงาน
ล่าสุดคือ ละครเวทีเรื่อง สิทธารถะ ส่วนในละครเรื่องนี้เขามารับบทนักแสดงที่ต้องเปลี่ยนบทบาททั้งหมด
7 คาแรคเตอร์ แต่จะเป็นอะไรบ้างนั้นติดตามชมได้ในละครเวทีเรื่อง M.Antoine “ทำอย่างไรให้โง่”


ลัดดา คงเดช (ผึ้งไม่น้อย ไม่คอยใคร)
เริ่มทำละครตั้งแต่สมัยเรียน เข้าร่วมเป็นสมาชิกพระจันทร์เสี้ยวการละคร ปี2553 จากละครเรื่อง
คือผู้อภิวัฒน์ และผลงานล่าสุดกับพระจันทร์เสี้ยวการละครเรื่อง ผีแมวดำ ในเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์ 2556
ปัจจุบันเป็นผู้ประสานงานคณะละครยายหุ่น อกหัก และตกงานแต่ไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตาย ละครเรื่องนี้ เธอ
รับบทบาทที่หลากหลายถึง 5 คาแรคเตอร์ ติดตามการแสดงของเธอได้ใน M.Antoine “ทำอย่างไรให้โง่”


เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ (BB)
ร่วมงานละครกับพระจันทร์เสี้ยวการละครครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียนที่คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ในงาน
อ่านเรื่องรัก และเป็นสมาชิกพระจันทร์เสี้ยวการละครในปี 2553 จากการเป็นผู้กำกับเวทีละครเรื่อง
คือผู้อภิวัฒน์ ผลงานการแสดงล่าสุดคือ ละครเวทีเรื่อง ปีศาจหัวโต ปัจจุบันเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา
ที่โรงเรียนภัทราวดีมัธยมศึกษา รับบทเป็น ผู้กำกับเวที ในเรื่อง M.Antoine “ทำอย่างไรให้โง่”

นักแสดงรับเชิญ
สุกัญญา เพี้ยนศรี
ณัชศลิษฏา วัลย์ณัฐประภา


 

เรื่องย่อ
“ความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่จงใช้ชีวีให้คุ้มค่า” ละครเวทีเรื่อง M.Antoine “ทำอย่างไรให้โง่” ดัดแปลงจากวรรณกรรมฝรั่งเศสเรื่อง Comment je suis devenu stupide ของผู้เขียน Martin Page เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อ อองตวน เขาเป็นคนฉลาดเป็นนักอ่านตัวยง ความฉลาดของเขาทำให้เขาต้องเผชิญกับปัญหาและความเครียดมากมายราวกับว่ามันเป็นโรคร้ายที่คอยกัดกินชีวิตเขา เขาเลือกที่จะก้าวข้ามไปสู่อาณาจักรแห่งความโง่เขลาด้วยวิธีต่างๆ เช่น กลายเป็นคนติดเหล้า พยายามฆ่าตัวตาย หรือเสนอให้หมอประจำตัวผ่าตัดเอาสมองออกบางส่วน หนทางการแสวงหาความสุขที่ประหลาดของอองตวนจะดำเนินต่อไปนั้น...อาจทำให้คุณได้คิดอะไรบางอย่าง


สารจากผู้กำกับ
วรรณกรรมฝรั่งเศสเรื่อง “ Comment je suis devenu stupide ” ของผู้เขียน Martin Page
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วประทับใจมากๆ ตอนเรียนอยู่ปีสอง และด้วยภาวะหลายอย่างในชีวิตเริ่มคล้ายกับ
ตัวละครหลังจากที่เรียนจบ จึงเกิดแรงบันดาลใจให้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาทำ เรื่องราวนำเสนอคณะละคร
กลุ่มหนึ่งที่ต้องการทำละครเรื่อง M.Antoine “ทำอย่างไรให้โง่” แต่เกิดเหตุ ผู้กำกับหาย และบทละครไม่
เสร็จ เหลือแต่นักแสดง ผู้กำกับเวที และทีมงาน ละครจะต้องเล่นต่อไปหากยังมีผู้ชมรอดู ละครจะเป็น
อย่างไร และผู้กำกับหายไปไหน ทีมงานทั้งหมดจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ละครสามารถแสดงได้...และความ
ยุติธรรมของคนดูอยู่ที่ไหน



ดัดแปลงบทและกำกับการแสดง : เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ /

อำนวยการผลิต  : เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ /
ออกแบบและควบคุมแสง : กันต์ดนัย โชติกประคัลภ์ /
ควบคุมเสียง : พิชญ์วัฒน์ ชัชวาลย์ / ที่
ปรึกษาเทคนิคฝ่ายแสง : ทวิทธิ์ เกษประไพ /
กำกับเวที : สุธี ใจเพ็ง, กอใจ อุ่ยวัฒนพงศ์ /

ออกแบบฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก : พิชญ์วัฒน์ ชัชวาล /
ถ่ายภาพนิ่ง :จิรัชพงศ์ เรืองจันทร์, จิรณัทย์ เจียรกุล /
เสื้อผ้า : ศรวณี ยอดนุ่น, ชาคริยา ถิ่นจะนะ /
ฝ่ายบัตรและต้อนรับ : ชาคริยา
ถิ่นจะนะ, กอใจ อุ่ยวัฒนพงศ์, อรสุมน ศานติวงศ์สกุล /

ออกแบบกราฟฟิก : พีรเวทย์ กระแสโสม /
ทีมงานเซ็ทอัพและ
สนับสนุน : พี่แอ๋ม, พี่แจ๊ค, พี่อิฐ, พี่ฐาน, พี่ไผ่, ลูกอิน, น้องมายด์, น้องฮิม

ขอขอบคุณ
สถาบันปรีดี พนมยงค์ / พระจันทร์เสี้ยวการละคร / เครือข่ายละครกรุงเทพฯ

นำดื่มตราสิงห์ ผู้สนับสนุนนำดิื่มให้กับ M.Antoine “ทำอย่างไรให้โง่”

08 May 2014

สูจิบัตร ผีแมวดำ

สูจิบัตร “ผีแมวดำ”



เรื่องย่อ
“ผีแมวดำ” ละครแมวที่ไม่มีแมว ดัดแปลงจากบทละครเรื่อง Vinegar Tom ของนักเขียนบทละครหญิงชาวอังกฤษ Caryl Churchil เรื่องราวของการปราบแม่มดในยุคศตวรรษที่ 17 มาเป็นละคร(ที่มี)เพลงลูกทุ่งคนจนแบบบ้านๆ ว่าด้วยเรื่องของแมว ผี กับคน ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่กำลังมีโรคประหลาดที่กำลังออกอาละวาดไปทั่ว
สารจากผู้กำกับ
งานเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์  ครั้งที่ 6 หรืองานศิลปะกับสังคม ครั้งที่ 18 : 40 ปี ตุลา 2516 ทำให้นึกถึงบทละครที่เคยได้เรียนวรรณคดีภาษาอังกฤษ ที่ว่าด้วยเรื่อง แม่มด ผี ผู้หญิง และการใช้ความรุนแรง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำงานครั้งนี้

Vinegar Tom เป็นบทละครเฟมินิสต์ชื่อดังที่มีความน่าสนใจตรงที่เล่าเรื่องราวของผู้หญิงจากมุมมองของผู้หญิงในยุคล่าแม่มดซึ่งผู้หญิงถูกกล่าวหา ถูกทรมาน และถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เราหยิบบทละครเรื่องนี้มาแปลและดัดแปลงเป็นภาษาไทย โดยปรับจากการล่าแม่มดมาเป็นการล่าผีในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เราจะได้เห็นตัวละครผู้หญิงหลายแบบและการตัดสินใจที่แตกต่างกัน เริ่มจากเหตุการณ์เล็กๆที่ถูกขยายตัวใหญ่ขึ้นด้วยความไม่ชอบและความกลัวจนกลายเป็นความแปลกแยกต่อกัน ซึ่งทำให้เราเห็นความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบัน

ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ บทละครเรื่องเคยถูกนำเสนอในรูปแบบละครแนว Epic Theatre ซึ่งตรงกับความสนใจของพระจันทร์เสี้ยวการละคร เราจึงอยากทำงานค้นคว้าทดลองในการปรับเปลี่ยนบริบทฝรั่งให้เป็นไทยโดยผ่านการเล่าเรื่องโดยใช้นักแสดง 9 คน ที่จะแสดงเป็นตัวละครหลักและตัวละครอีกหลายตัวละคร โดยผสมผสานด้วยเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่และนำเพลงลูกทุ่งชื่อดังในอดีตมาช่วยเล่าเรื่องและเป็นลูกขัดของเรื่อง เพื่อให้เกิดการทำให้แปลกและไม่แปลกได้ในเวลาเดียวกัน เป็นทั้งการเสียดสีเหมือนกับภาวะความสนุกแบบหรรษาพาไป 





รายชื่อนักแสดง
ฟารีดา จิราพันธุ์
เกรียงไกร ฟูเกษม
กวินธร แสงสาคร
ดลฤดี  จำรัสฉาย
จิรัชพงศ์ เรืองจันทร์
ลัดดา คงเดช
อรุณโรจน์ ถมมา
กอใจ อุ่ยวัฒนพงศ์
พิชญา ม่วงสุขำ


รายชื่อทีมงาน  
กำกับการแสดงและดัดแปลงบท สินีนาฏ เกษประไพ
แปลบท อรดา ลีลานุช
แต่งเพลงและดนตรี นายท่าน จันทร์เรือง
ฝึกร้องเพลง  ช่อลดา สุริยะโยธิน
ออกแบบท่าเต้นเพลงลูกทุ่ง  สุธี ใจเพ็ง
ออกแบบและควบคุมแสง ทวิทธิ์ เกษประไพ
ควบคุมเสียง  สุกัญญา เพี้ยนศรี
กำกับเวที ณัชศลิษฏา วัลย์ณัฐประภา, สุธี ใจเพ็ง, หฤษฎ์ เกิดสงกรานต์
ฝ่ายเทคนิค,ฉาก,อุปกรณ์ประกอบฉาก  ทวิธิ์ เกษประไพ, พลัฏ สังขกร, พิชญ์วัฒน์ ชัชวาล, ชัยวัฒน์ คำดี
ฝ่ายเสื้อผ้า   สินีนาฏ เกษประไพ, ลัดดา คงเดช, ชาคริยา ถิ่นจะนะ, ณัชศลิษฏา วัลย์ณัฐประภา
ประชามสัมพันธ์  ลัดดา คงเดช
ฝ่ายบัตรและหน้างาน ศรวณี ยอดนุ่น, อรดา ลีลานุช, ชาคริยา ถิ่นจะนะ, ชลดี แจ่มปฐม
ถ่ายภาพนิ่ง จิรัชพงศ์ เรืองจันทร์,อดิเดช ชัยวัฒนกุล,  จีรณัทย์ เจียรกุล 
สูจิบัตร พิชญ์วัฒน์ ชัชวาล
ทีมงานเซ็ทอัพและสนับสนุน  กรุง, อเล็กซ์, มายด์, ลูกแก้ว, อิง, เบญจ์,


ขอบคุณผู้สนับสนุน
สถาบันปรีดี พนมยงค์
ครูคำรณ คุณะดิลก
ผศ.ศรวณีย์ สุขุมวาท
คุณสินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย
อ.นพีสี เรเยส
ดร.ปอรรัชม์ ยอดเณร
น้ำดื่มตรา OMIZU


บทวิจารณ์ ผีแมวดำ

วิจารณ์ ผีแมวดำ
โดย กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิณ
จากนิตยสาร สีสัน ฉบับที่ 3 2556



เนื่องจากเดือนตุลาฯปีนี้เป็นวาระครบรอบ 40 ปีของเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 จึงมีการจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นกันเป็นพิเศษโดยเฉพาะที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซึ่งปกติก็มีเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์เป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว มาปีนี้ก็เน้นไปที่เนื้อหาด้านการเมืองในระยะ 40 ปี ที่ผ่านมาโดยเฉพาะ
ในส่วนของละคร เทศกาลนี้มีละครให้ดูถึง 3 เรื่อง คือ “ผีแมวดำ” ของพระจันทรืเสี้ยวการละคร “โรมูลุส ออน เดอะร็อค” ของ มรดกใหม่ และ “ไต้ฝุ่น” (The Remains) ของ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



”ผีแมวดำ” เป็นละครแนวเอพิคจากเรื่อง Vinegar Tom ของนักเขียนสตรีชาวอังกฤษ คารีล เชอร์ชิลล์ เนื้อเรื่องอยู่ในยุคสมัยของการล่าแม่มดในอังกฤษ สมัยศตวรรษที่  17 โดยสอดแทรกเนื้อหาด้านสิทธิสตรีของปลายศตวรรษที่ 20 เข้าไปด้วย สินีนาฏ เกษประไพ นำมาดัดแปลงเรื่องให้เป็นคนไทยในชนบทที่แทบไม่มีกลิ่นอายของฝรั่งเหลืออยู่เลย เป็นละครที่แยกคนดูให้ถอยห่างด้วยวิธีการต่างๆนานา แต่กลับให้ความสะเทือนใจได้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อนึกไปถึงการล่าแม่มดในยุคหลัง 14 ตุลาคม  

หมายเหตุ : ตัดบางส่วนมาจาก คอลัมภ์  THEATRE (หน้า  85) นิตยสาร สีสัน ฉบับที่ 3 2556


ภาพถ่ายจากการแสดง "ผีแมวดำ"
ถ่ายโดย จีรณัทย์ เจียรกุล

 
 
 

เปิดรับบทใหม่ 10 Minute PLaY #3


เปิดรับบทใหม่
10 Minute PLaY #3



พระจันทร์เสี้ยวขอเชิญชวนคนรักการเขียนบทละคร ส่งบทละครสั้นที่เขียนขึ้นใหม่และยังไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน มาเข้ารับการคัดเลือกกับเรา ไม่จำกัดประเด็น ไม่จำกัดประสบการณ์ทางการละครและอายุของผู้เขียน แต่จำกัดความยาวของบทละคร ถ้าหากจัดแสดงควรอยู่ในช่วงเวลา ประมาณ 10-15 นาที

งานนี้ไม่มีโล่และเงินรางวัลหรือประกาศนีบบัตรจะมอบให้ แต่เรามีการจัดกระบวนการเพื่อพัฒนาบท ประสบการณ์จากกระบวนการกลุ่ม ประสบการณ์จากการจัดการแสดงให้ในรูปแบบ play reading และ post talk หลังการแสดง

หากบทละครของคุณมีความน่าสนใจ เราจะเลือกมาเข้าร่วมกระบวนการกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้ดูแลโครงการ ผู้กำกับ และ นักแสดง เพื่อทำการจัดแสดงในรูปแบบการแสดงอ่านบทละคร “10 Minute Play #3″ ซึ่งจะจัดแสดงในวันที่ 5-6 ก.ค. 57 ที่โรงละครพระจันทร์เสี้ยว (สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซ.ทองหล่อ)

หากสนใจเข้าร่วมโครงการ โปรดส่งบทละครสั้นของคุณมาทางอีเมล์ crescentmoon.workshop@gmail.com
 1.โปรดบอกชื่อจริงและนามสกุลจริง ของผู้เขียน มาในอีเมล์ด้วย
2. เราขอรับเพียง 2 บท จาก 1 ผู้เขียน

 เปิดรับบทใหม่ ตั้งแต่ 10 เม.ย. – 31 พ.ค. 57
 *** ประกาศผลบทใหม่ 10 มิ.ย. 57 ***

สอบถามเพิ่มเติมที่ 08 1929 4246
https://www.facebook.com/events/630131717066116/

ศรีดาวเรืองกับภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง


ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง


ในวาระครบรอบ 72 ปีชีวิตนักประพันธ์หญิงเจ้าของนามปากกา ศรีดาวเรือง คู่ชีวิต สุชาติ สวัสดิ์ศรี หรือ สิงห์สนามหลวง พระจันทร์เสี้ยวการละครได้จัดการแสดงละครเวทีสั้นสองเรื่องควบจากผลงานเขียนของศรีดาวเรือง คือเรื่อง ภาพลวงตาของการเปลี่ยนแปลงสรรพนาม ซึ่งเป็นหนึ่งเรื่องสั้นชิ้นเอกในหลายเรื่อง นวนิยายขนาดสั้น เนินมะเฟือง จากการกำกับของสินีนาฏ เกษประไพ หนึ่งในสมาชิกพระจันทร์เสี้ยวการละครและเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการนำเสนองานละครเวทีของพระจันทร์เสี้ยวร่วมกับสมาชิกคนอื่นของคณะ
การจับเอางานเขียนทั้งสองชิ้นมาทำเป็นละครเวทีเกิดจากการคัดเลือกร่วมกันของสมาชิกพระจันทร์เสี้ยว เพื่อเป็นการฉลอง 6 รอบอายุของศรีดาวเรือง ครบรอบ 38 ปี นามปากกา ศรีดาวเรืองซึ่งก่อเกิดขึ้นมาในโลกวรรณกรรมไทยเมื่อปี พ.ศ. 2518


                                                                    (ศรีดาวเรือง)

สินีนาฏในฐานะผู้กำกับละครเวทีสั้นทั้งสองเรื่องในชื่อใหม่ที่นำเอาทั้งสองชื่อมาผนวกกันว่า ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อผลงานเขียนของศรีดาวเรืองว่าประทับใจตั้งแต่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนนั้นศึกษาอยู่ปี 2 ภาควิชาภาษาอังกฤษ อาจารย์สอนวรรณคดีอังกฤษเป็นผู้แนะนำให้อ่านงานของศรีดาวเรือง ได้อ่าน มัทรี ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษเป็นเรื่องแรกและรู้สึกประทับใจกับประเด็นทางสังคมรวมทั้งเรื่องผู้หญิงที่นำเสนอ หลังจากนั้นจึงติดตามและหางานชิ้นอื่นๆ มาอ่านแต่ก็ยังอ่านได้ไม่ครบ การทำละครเวทีสั้นสองเรื่องควบ ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง ยากตรงการคัดเลือกเรื่องมานำเสนอในรูปแบบละครเวที ยิ่งอ่านยิ่งทำให้รู้ว่าผู้ประพันธ์เขียนเรื่องราวของผู้หญิงไว้จำนวนหลายเรื่อง เมื่ออ่านงานของศรีดาวเรืองทำให้เห็นทั้งตัวเอง นึกถึงและคิดถึงแม่ ค้นพบรายละเอียดเล็กๆ ของครอบครัว สวัสดิ์ศรี และค้นพบว่าบ้านนี้ชอบรถไฟ


                                            (สินีนาฏ เกษประไพ)

พระจันทร์เสี้ยวได้ลงมือในการกำหนดประเด็นการนำเสนอผลงานละครสั้นจากบทประพันธ์ของศรีดาวเรือง ทุกคนช่วยกันอ่านและสรุปประเด็นหลักๆ ที่ต้องการร่วมกัน คือ ผู้หญิง รถไฟ เมือง-ชนบท จึงตัดสินใจร่วมกันเลือกสองเรื่องข้างต้น ภาพลวงตาของการเปลี่ยนแปลงสรรพนาม เป็นเรื่องที่ยากมากในความรู้สึกของสินีนาฏ มีเรื่องระหว่างบรรทัดเกิดขึ้นมากมาย ในเรื่องพูดถึงความรัก ความใคร่ ความพาฝันของผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและเป็นชนชั้นกลางของสังคมเมือง มีความนิ่งเงียบในน้ำเสียงและบรรยากาศของเรื่องแต่มีความแรงลึก นวนิยายสั้นเรื่องนี้ประพันธ์เมื่อปี พ.ศ. 2530 และเป็นความคิดของผู้หญิงคนหนึ่งที่ล้ำหน้ามากเมื่อเทียบกับยุคสมัยในตอนนั้น
ผู้กำกับเลือกให้บทสนทนาในเรื่องเป็นไปและไหลลื่นไปตามตัวบทประพันธ์ดั้งเดิม ไม่เปลี่ยนคำ คำในเรื่องที่เป็นภาษาวรรณกรรม เน้นให้ตัวละครพูดให้มีความหมายและให้สมจริง เล่าแบบที่บทประพันธ์ต้องการสื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีฉากประกอบง่ายๆ เป็นภาพมัลติมีเดียฉายประกอบเพื่อเป็นฉากรถไฟกำลังแล่น ตัวละครนั่งอยู่ในรถไฟและอยู่ที่ชานชาลา ผู้กำกับเลือกการทำฉากแบบง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนมาก คงเนื้อหาที่แน่นและไม่ตกหล่นประเด็นที่ต้องการนำเสนอ เป็นต้นแบบสำหรับกลุ่มละครต้นทุนน้อยแต่เน้นการทำงานให้ได้คุณภาพ
การเลือกหยิบนวนิยายขนาดสั้นเรื่อง เนินมะเฟือง สอดคล้องกับประเด็นรถไฟ ผู้หญิง เมืองและชนบทเช่นเดียวกับเรื่อง ภาพลวงตาของการเปลี่ยนแปลงสรรพนาม สินีนาฏเลือกเรื่องนี้ที่ให้ทั้งภาพชนบท วัยเด็ก การเติบโต การมาของความเจริญ และสิ่งที่ร่วมกันของผู้หญิงที่เป็นตัวละครในทั้งสองเรื่องที่ผู้กำกับมองเห็นชัดเจนได้แก่ ผู้หญิงจากทั้งสองเรื่องเป็นผู้เลือกชีวิตของพวกเธอเอง ชิ้นงานมีความสวยงาม การเล่าเรื่องเรียบเรื่อย ไม่กระแทกกระทั้น ที่สำคัญคือผู้หญิงในเรื่องเลือกได้แม้มีข้อจำกัดและสิ่งที่พวกเธอเลือกคือสิ่งที่ทำยากมาก
ในส่วนของเจ้าของบทประพันธ์ซึ่งได้มาชมการแสดงทั้งสองเรื่อง รู้สึกพอใจมากกับการทำงานละครสั้นทั้งสองเรื่องนี้ออกมาในรูปแบบละครเวที พระจันทร์เสี้ยวเคยทำภาพยนตร์สั้นเรื่องมัทรีซึ่งนำมาจากบทประพันธ์เรื่อง มัทรี ของศรีดาวเรือง ประเด็นที่ผู้กำกับนำเสนอก็ไม่ผิดไปจากที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อออกมากับผู้อ่าน เมื่อคณะติดต่อว่าจะนำงานเขียนมาจัดแสดงยังนึกภาพไม่ออกว่าจะนำเสนอแบบไหน แต่เมื่อมาชมก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองเรื่องมีรถไฟเป็นสัญลักษณ์เพื่อจะสื่อกับผู้ชมว่า รถไฟมีทั้งความเจริญ ความชั่วร้าย และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่มาพร้อมกับมัน “เรื่องเนินมะเฟืองตอนที่เขียนก็นำมาจากเรื่องและบุคคลใกล้ตัว เป็นเรื่องนินทาตามประสาชาวบ้าน ต้นเรื่องมาจากเรื่องเล่า และคิดว่าผู้หญิงต้องมีสิทธิ์ในการจะตัดสินใจทำอะไรได้ด้วยตัวเองเช่นกัน” ศรีดาวเรืองกล่าวในวันเสวนาหลังละครเวทีทั้งสองเรื่องจบลง


                                        (สิงห์สนามหลวง และ ศรีดาวเรือง)

ความในใจของผู้ประพันธ์ – ศรีดาวเรือง “หมู่บ้านเนินมะเฟืองจะมีอยู่จริงหรือไม่  ฉันไม่ทราบ   หมู่บ้านในเรื่องนี้ – สำหรับชื่อ-มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของจินตนาการ  ส่วนเนื้อหาที่ปรากฏ – มีอยู่จริง   ท่านจะอ่านและสังเกตได้จาก “ข่าวพาดหัว” เท่าที่เคยผ่านตา และน่าจะมีปรากฏขึ้นมาต่อไป
สำหรับฉัน – ฉันมิได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นเพื่อขัดแย้งกับศีลธรรม  ฉันเขียนเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่อง “จักรๆ วงศ์ๆ ยุคใหม่” ที่เส้นทางคมนาคมได้กลายเป็นตัวกำหนดบทบาทและค่านิยมของผู้คนในหมู่บ้านห่างไกล
ฉันเขียน เนินมะเฟือง โดยตั้งใจให้เป็นเพียง ภาพร่างเบื้องต้นของชีวิตที่ยังไม่มีรายละเอียด  ชีวิตบางส่วนได้จบไป แล้ว  บางส่วนกำลังเริ่มต้น  - ศรีดาวเรือง, 14 ธันวาคม 2529”

งานประพันธ์ทั้งสองเรื่องของศรีดาวเรืองมีความล้ำสมัยในยุคของเธอตอนนั้น มีความร่วมสมัยเชิงแนวคิด รวมถึงความฉกาจฉกรรจ์ของเธอในการถ่ายทอดประเด็นของแต่ละชิ้นงานออกมา ด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะของศรีดาวเรือง ภาษาง่าย ตรงไปตรงมาแต่ลึก จังหวะของบทสนทนาลงตัว การหยิบผลงานของนักประพันธ์หญิงผู้นี้มาสื่อสารผ่านช่องทางใหม่ในรูปแบบละครเวที ทำให้คนรุ่นต่อๆ มาได้ย้อนกลับไปศึกษาต้นธารงานประพันธ์ของ ศรีดาวเรือง ที่มีเรื่องสั้นนับร้อยกว่าเรื่อง และนวนิยายอีกจำนวนหนึ่ง กลับไปอ่านครั้งใดจะได้พบกับความคิดชุดใหม่ๆ และเกิดคำถามกับยุคสมัยทั้งสมัยของเธอและสมัยปัจจุบัน หลายเหตุการณ์ในเรื่องก็ยังวนๆ เวียนๆ คลับคล้ายคลับคลากับกาลเวลาในยุคเก่าแม้จะผ่านพ้นมาแล้วเนิ่นนานก็ตามที

เล่าสู่กันฟังโดย นงค์ลักษณ์ เหล่าวอ
ภาพจากการแสดงละครเวที ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง เอื้อเฟื้อโดย พระจันทร์เสี้ยวการละคร

เขียนโดย nonglucky
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=876734

 

23 July 2013

โปรเจค 1/4 restage at CMU



กลับมาอีกครั้ง...พร้อมเดินทางต่อไป.... ไปแสดงที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่





โปรเจค 1/4 เส้นทางระหว่างเขาและเธอ

4 ผู้กำกับ 1 นักเขียนบท กับละครสั้น 4 เรื่อง



"ที่พักใจ"
แสดงโดย : อาคีรา โหมดสกุล, เกรียงไกร ฟูเกษม

"สายน้ำกับสายลม"
แสดงโดย : อรรถพล อนันตวรสกุล, อรดา ลีลานุช

"นี่ไม่ใช่บทเพลงรัก"
แสดงโดย : ชลดี แจ่มปฐม, เบ็น โกศลศักดิ์

"เสียงสะท้อนจากความเงียบ"
แสดงโดย : วรุตม์ เข็มประสิทธิ์, เววิรี อิทธิอนันต์กุล


วันที่ 9-11 สิงหาคม 2556
ร่วมแสดงในงาน
"50 ปี เส้นทางแห่งความภาคภูมิใจของพวกเราชาวภาษาอังกฤษ มช."
ณ อาคาร HB 5 ชั้น 1 ห้อง 5100
คณะมนุษยศาสตร์ มช.



*** รายละเอียดรอบแสดงและการจองบัตร จะประกาศก่อนวันแสดง 2 อาทิตย์ ***


see :
http://www.facebook.com/CrescentMoonTheatre




.......................

เกี่ยวกับผู้เขียนบท

อรดา ลีลานุช

เริ่มสนใจละครเวทีและเข้าร่วมเวิร์คชอปละครเวทีตอนเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นได้ทุนไปศึกษาต่อที่ St. Olaf College และจบปริญญาตรีทางด้าน Theatre เริ่มเขียนบทละครเวทีตอนศึกษาระดับปริญญาโทที่ Miami University และจากนั้นก็เขียนบทละครมาตลอด มีผลงานการเขียนบทละครทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย ผลงานล่าสุดที่ผ่านมาคือเรื่อง หญิงสาวกับดวงดาว แสดงที่ The Reading Room

----------------

เกี่ยวกับผู้กำกับ

สุกัญญา เพี้ยนศรี
สนใจและเริ่มทำละครตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ต่อมาเข้าศึกษาต่อและจบจากสาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการละคร มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา มีผลงานกำกับเรื่อง "Drawing" เข้าร่วมเป็นสมาชิกพระจันทร์เสี้ยวการละครในปี 52 มีผลงานการแสดงและกำกับเรื่อยมา ผลงานกำกับล่าสุดคือ "Fall ร่วง หก ตก หล่น" ซึ่งสร้างสรรค์และแสดงร่วมกับ ศิริธร ศิริวรรณ

รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ
ผู้กำกับและนักเขียนบทประจำคณะ Pastel Theatre เริ่มต้นสนใจละครจากการแสดงเป็นเด็กยกของในเทศกาลละครเล็กๆ ของเครือข่ายหน้ากากเปลือย หลังจากฝึกละครกับเครือข่ายหน้ากากเปลือยอยู่ ๓ ปี จึงเริ่มมีผลงานการเขียนบท และการกำกับการแสดงออกมา เมื่อเริ่มมีแนวทางเป็นของตนเองจึงรวมตัวกับเพื่อน ๓ คนออกมาตั้งกลุ่ม Pastel Theatre จบการศึกษาปริญญาโท ภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการร่วมงานละครกับกลุ่มละครอาชีพอื่นๆ ผลงานการเขียนบท และกำกับการแสดงที่ผ่านมาในนาม Pastel Theatre คือ เรื่อง “วันที่สหายพายุกลับบ้าน” และผลงานล่าสุด “คิมจองอิลตายแล้ว”

ศิริธร ศิริวรรณ
จบจากภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยเข้าอบรมโครงการละคร Do Drama ของคณะมนุษยศาสตร์ สถาบันคลังสมอง และพระจันทร์เสี้ยวการละคร หลังจากนั้นจึงเริ่มทำละครกับภาควิชา ต่อมาได้เข้ามาร่วมเป็นนักทำละครกับพระจันทร์เสี้ยวการละคร มีผลงานที่ผ่านมาโครงการอ่านบทละคร "อ่านในใจ" และผลงานกำกับ "fall ร่วง หก ตก หล่น" ซึ่งสร้างสรรค์และแสดงร่วมกับ สุกัญญา เพี้ยนศรี

เบญจ์ บุษราคัมวงศ์
คุณครูที่รักการทำละคร จบการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนใจศิลปะ และละครตั้งแต่เป็นนิสิตชั้นปีที่1 และทำงานละครอย่างต่อเนื่องขณะที่เป็นนิสิต เป็นอดีตประธานชมรมศิลปะการแสดงคณะครุศาสตร์ มีผลงานการกำกับละครเรื่อง "จริงเพียงจริง" และ "รอยยิ้มของอลัน" ในเทศกาลละครกรุงเทพฯ 2551เข้าร่วมเป็นสมาชิกพระจันทร์เสี้ยวการละครในปี 2552 มีผลงานการกำกับในโครงการอ่านบทละคร ได้แก่ อ่านเรื่องรัก, อ่านในใจ และอ่านผู้ชาย ปัจจุบันเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษาที่โรงเรียนภัทราวดีมัธยมศึกษา หัวหิน



14 July 2013

"ภาพลวงตาจากเนินมะเฟือง" ที่ ม.บูรพา



พระจันทร์เสี้ยว จะไปร่วมในโครงการ Chance to Change : Film & Stage ที่ ม.บูรพา

โครงการดีๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นโอกาสในการได้รับชม และรับฟังความรู้จากศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ มากมาย ทั้งในด้านดนตรีและการแสดง

จัดขึ้นในวันที่ 14-18 , 25-27 กรกฎาคม 2556

สามารถลงชื่อเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่สถาบันวิจัยวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยบูรพา

หมายเหตุ **
เข้าร่วมชมและพูดคุยกับศิลปินผู้สร้างผลงาน ฟรี!!!

see more
http://www.facebook.com/ChanceToChangeFilmAndStage

08 July 2013

เสียงสะท้อนจากเสวนาเรื่องละครโรงเล็ก

สืบเนื่องมาจากการบรรยายพิเศษ “ที่ทางของละครร่วมสมัยไทย ตอน 2 : ละครโรงเล็กในกรุงเทพมหานคร” ในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2556 เวลา 18:00-21:00 น.  ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร  นี่เป็นเสียงสะท้อนจากหนึ่งในผู้เข้าฟังในวันนั้น คือ อ.เจตนา นาควัชระ และเราขอขอบพระตุณอาจารย์อีกครั้งสำหรับเสียงสะท้อนที่เป็นกำลังเสริมแรงให้กับเรา


LEAN THEATRE" AND ITS ROLE MODEL

by Chetana Nagavajara
ที่มา : จาก fb อ.เจตนา นาควัชระ




Something must have gone wrong with me. I had in recent years been mored inspired by works of art than by people - until this evening, when I went to hear 5 theatre people talk about their vocation at the Bangkok Art and Culture Centre. The last words pronounced by the moderator, Pradit Prasartthong, inspired me beyond any description: MONEY IS NOT THEIR AIM IN L...IFE. THEY CHOOSE TO DO WHAT THEY LOVE, and their love is the theatre.

Pradit was joined by Sineenat (Crescent Moon), Jarunee (B-Floor), Pavinee (Democrazy Theatre) and Sunond (Pichet Dance Company). The word that came up all the time was rehearsal. I have seen all of them perform and can testify that they never go public with any slapdash work. Normally they don't earn enough to pay themselves artists' fees, but they remain dedicated to their art. They are the "Lean Theatre" that feels no inferiority to the "musical"-fed "Plump Theatre".


I don't admire them just because of the quality of their work (which fortunately has been recognized internationally), but also because of their attitude to life. They deserve to be regarded as the role model for our youth. Alas, the Bangkok Art and Culture Centre is only a few steps away from the most lustrous and most expensive shopping centre in the kingdom (which I shall not deign to name).

It's too late now to get into a weighty and serious discourse. I'll write at greater length later.See more




01 July 2013

เปิดรับสมัครละครลงเทศกาลละครกรุงเทพ 2013




เทศกาลละครกรุงเทพปี ๒๕๕๖
เริ่มเทศกาลวันที่ ๒-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ณ สวนสันติชัยปราการ โรงละครเล็กทั่วกรุงเทพ และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

สำหรับผู้ที่สนใจ Download ใบสมัครได้ที่ FB:bangkok theatre festival , bangkok theatre network , เครือข่ายละครกรุงเทพ

ตั้งแต่บัดนี้ ปิดรับใบสมัคร ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖



see more

https://www.facebook.com/BangkokTheatreFestival?ref=ts&fref=ts

https://www.facebook.com/BangkokTheatreFestival?ref=ts&fref=ts#!/BangkokTheatreNetwork.fanpage?fref=ts