03 May 2017

10 Minute Play #1 ในนิตยสาร Art Square





แค่เพียงสิบนาที: 10 Minute Play Project
Text: ภาสกร อินทุมาร
Photo: อดิเดช ชัยวัฒนกุล 
จาก :  นิตยสาร Art Square

ข้อจำกัดหนึ่งของการเรียนทางด้านการละครในประเทศไทยก็คือการขาดแคลนบทละครที่เขียนขึ้นภายใต้บริบทสังคมไทยร่วมสมัย แม้ว่ากลุ่มละครต่างๆจะได้ผลิตบทละครเพื่อการจัดแสดงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่บทละครเหล่านั้นก็อาจจะยังไม่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์สาขาการละครในมหาวิทยาลัยต่างๆได้นำไปใช้ในการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติ เช่น การแสดง (acting) และการกำกับการแสดง (directing) ในการเรียนวิชาเหล่านี้ นักศึกษาจะต้องฝึกปฏิบัติผ่านฉากย่อยของบทละคร (scene work) ซึ่งที่ผ่านมานั้น นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องฝึกปฏิบัติด้วยบทละครของต่างประเทศที่แปลมาเป็นภาษาไทย ซึ่งบทละครเหล่านั้นก็ล้วนผูกโยงอยู่กับบริบททางสังคมของประเทศเหล่านั้น และนั่นก็ทำให้นักศึกษามีข้อจำกัดในการทำความเข้าใจและตีความตัวบท

อย่างไรก็ดี ได้มีความพยายามในการตีพิมพ์และเผยแพร่บทละครร่วมสมัยของไทย ดังจะเห็นได้จากการตีพิมพ์หนังสือ “First Read บทละครหลากสี มีดีที่หลากหลาย” ในปี 2554 โดยเครือข่ายละครกรุงเทพ (Bangkok Theatre Network) สนับสนุนการจัดพิมพ์โดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม โดยเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นการวิเคราะห์รูปแบบและเนื้อหาของบทละครร่วมสมัยที่จัดแสดงในเทศกาลละครกรุงเทพ และมีตัวอย่างบทละคร 4 เรื่อง ที่สะท้อนบทวิเคราะห์ดังกล่าว ความพยายามนี้เป็นหลักหมายสำคัญในการนำเสนอบทละครร่วมสมัยของไทยต่อสาธารณะ และเป็นหนังสือที่สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนละครร่วมสมัยของไทย

ถึงแม้จะมีความพยายามดังกล่าว บทละครที่ตีพิมพ์ในหนังสือเล่มนี้ยังเป็นบทละครที่ค่อนข้างยาว ซึ่งหากนักศึกษาจะนำไปฝึกปฏิบัติ ก็อาจจะต้องดึงเอาบางช่วงบางตอนของบทไปใช้ ซึ่งนั่นก็เป็นข้อจำกัดเช่นกัน เพราะบทละครมีการเชื่อมร้อยต่อเนื่องกัน การตัดตอนออกไปอาจจะทำให้ตอนที่นำไปใช้หลุดลอยออกจากบริบทของละครทั้งเรื่อง ด้วยเหตุนี้ ในปี 2555-2556 ที่ผ่านมา “พระจันทร์เสี้ยวการละคร” (Crescent Moon Theatre) จึงริเริ่มโครงการ “10 Minute Play” ขึ้น ดังที่ สินีนาฏ เกษประไพ แห่งพระจันทร์เสี้ยวการละครได้กล่าวไว้ว่า



“ที่ผ่านมาเวลาทำ scene work เด็กที่เรียนละครส่วนใหญ่ต้องเอาบทละครของฝรั่งมาใช้ ซึ่งบทพวกนี้มันก็ไม่เข้ากับบริบทของไทย เด็กก็ไม่ได้เข้าใจมันจริงๆ เราก็เลยอยากสร้างบทละครขนาดสั้นที่เขียนขึ้นในบริบทสังคมไทยร่วมสมัย ตั้งไว้ว่าความยาวประมาณ 10 นาที อาจจะบวกลบได้นิดหน่อย เป็นบทที่เด็กที่เรียนละครสามารถเอาไปทำ scene work ได้ทั้งเรื่อง”
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของโครงการ โดยครั้งแรกจัดขึ้นระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม 2555 และครั้งที่ 2 ในเดือนเมษายน 2556 เป็นการให้ผู้สนใจส่งบทละครที่เขียนขึ้นใหม่ด้วยตัวเองเข้ามารับการคัดเลือก และบทละครที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกนำไปจัดแสดงในรูปแบบการอ่านบทละคร (play reading) อย่างไรก็ดี ในครั้งที่ 2 นั้น มีบทละครที่ผ่านการคัดเลือกเพียง 3 เรื่อง ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยเกินไปสำหรับการจัดแสดงครั้งหนึ่งๆ ผู้จัดจึงเก็บบทละครทั้ง 3 เรื่องไว้เพื่อจัดแสดงร่วมกับบทละครที่จะมาจากโครงการครั้งที่ 3 ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
ในการได้มาซึ่งบทละครที่มีคุณภาพที่เหมาะสมนั้น สินีนาฏ ได้ออกแบบโครงการนี้ในลักษณะ “กระบวนการ” ด้วยเห็นว่ากระบวนการเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าผลลัพธ์ กระบวนการที่ว่านั้นก็คือ สินีนาฏได้ชักชวนนักการละครอีก 2 คนมาร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกบทละคร ทำให้ได้องค์ประกอบของกรรมการที่หลากหลายมิติ สินีนาฏเองเป็นนักการละครที่มีประสบการณ์ในการผลิต กำกับ และแสดงละครมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่วนอีก 2 คนที่เหลือก็คือ อรดา ลีลานุช อาจารย์สอนวิชาเขียนบทละครในมหาวิทยาลัยต่างๆ และผู้เขียนผู้ซึ่งเป็นนักวิชาการละครในเชิงสังคม ทั้ง 3 คนจะร่วมกันพิจารณาบทละครผ่านแง่มุมทั้งในทางศิลปะการละครและแง่มุมทางสังคมในบทละคร



ในโครงการครั้งแรกนั้น มีผู้ส่งบทละครมาเข้ารับการพิจารณาทั้งหมดประมาณ 40 เรื่อง เมื่อได้บทละครมาแล้ว กรรมการแต่ละคนจะอ่านบทละครทั้งหมด จากนั้นจึงมาประชุมร่วมกันเพื่อคัดเลือกว่าเรื่องใดมีคุณภาพที่เหมาะสม โดยที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายในเชิงจำนวนไว้ ในการประชุมเพื่อคัดเลือกบทละครนั้น กรรมการแต่ละคนจะให้น้ำหนักกับเรื่องที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมไว้ก่อน จากนั้นจึงมาแลกเปลี่ยนมุมมองและอภิปรายร่วมกัน โดยแง่มุมที่ใช้ในการพิจารณานั้นก็คือ บทที่เขียนมานั้นมีลักษณะของความเป็นบทละครหรือไม่ เนื้อหาหรือประเด็นของเรื่องสะท้อนสภาวะสังคมร่วมสมัยอย่างไร และมีความเป็นไปได้ในการจัดแสดงจริงหรือไม่ ซึ่งในกระบวนการพิจารณานั้นทำให้พบว่าบทละครบางเรื่องมีศักยภาพที่จะเป็นบทละครที่ดีได้ แต่อาจจะยังมีข้อจำกัดหรือข้ออ่อนบางประการ ดังนี้แล้ว กรรมการจึงเชิญผู้เขียนบททั้งหมดมาแลกเปลี่ยนมุมมองกับกรรมการเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงบทละครให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งในกระบวนการแลกเปลี่ยนนั้น ผู้เขียนบททุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อบทละครของคนอื่นๆด้วย มิใช่เพียงกรรมการเท่านั้นที่เป็นผู้แสดงความเห็น กระบวนการดังกล่าวจึงเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเพื่อการพัฒนาตัวบท ซึ่งในที่สุดนั้น โครงการครั้งแรกก็ได้บทละครที่มีคุณภาพที่เหมาะสมจำนวน 8 เรื่อง โดยที่ผู้เขียนทั้ง 8 คน มีตั้งแต่นักการละครที่มีประสบการณ์ไปจนถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย



เมื่อได้บทละครที่ปรับแก้จนเหมาะสมมาแล้ว ผู้เขียนบททุกคนจะได้พบกับผู้กำกับการแสดงที่จะนำบทละครไปทำการอ่านบทละคร โดยผู้กำกับการแสดงทั้งหมดเป็นผู้กำกับการแสดงรุ่นใหม่ของพระจันทร์เสี้ยวการละคร ผู้กำกับการแสดงแต่ละคนจะได้อ่านบทละครทั้ง 8 เรื่อง และทำการเลือกว่าตนเองสนใจที่จะนำเรื่องใดไปทำ จากนั้นจึงเป็นการออกแบบกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้กำกับการแสดงกับผู้เขียนบท อย่างไรก็ดี ผู้เขียนบทบางคนเลือกที่จะรอดูว่าบทของตนจะถูกตีความและถูกนำเสนออย่างไรโดยไม่เข้าไปให้ความเห็นต่อผู้กำกับการแสดง
ในกระบวนการพัฒนาบทละครนั้น ขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งก็คือการนำบทที่ได้มาทำการอ่านแบบตีความ (oral interpretation / dramatic reading) ซึ่งในการอ่านบทละครนั้นจะมีการแสดง (acting) ประกอบร่วมอยู่ด้วย แต่เป็นการแสดงที่นักแสดงยังไม่จำเป็นต้องวางบท และอาจมีองค์ประกอบทางการละครด้านอื่นๆเข้ามาเสริมการตีความด้วยก็ได้ เช่น การใช้แสง การเลือกเสื้อผ้า แต่ทั้งนี้ การอ่านบทละครที่เกิดขึ้นจะยังมิใช่การแสดงเต็มรูปแบบ ความสำคัญของกระบวนการอ่านบทละครก็คือการทดสอบว่าบทละครที่เขียนขึ้นนั้นสามารถเป็นละครเวทีได้จริงหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นได้ แต่มีข้อจำกัดใดหรือไม่เมื่อนำมาทดลองแสดง หากพบข้อจำกัด ก็จะนำไปสู่การปรับปรุงตัวบทให้เหมาะสมสำหรับการแสดงต่อไป ดังนี้แล้ว การอ่านบทละครจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการพัฒนาบทละคร
เมื่อกลับไปพิจารณาที่ตัวบทของทั้ง 8 เรื่อง จะพบว่ามีความแตกต่างหลากหลาย แต่ทั้งหมดก็ทำหน้าที่สะท้อนสังคมไทยร่วมสมัย ไม่ว่าบทละครเรื่องนั้นจะออกมาในแนวสนุกสนาน หรือเป็นบทที่เคร่งขรึมก็ตาม บทละครดังกล่าวคือ “อยาก” โดย ธีรกานต์ ไม้จันทร์ เป็นบทละครแนวสนุกสนานที่เสียดสีสังคมของบรรดาพ่อแม่ต่างๆที่อยากให้ลูกตัวเองเหนือกว่าลูกคนอื่น พ่อแม่เหล่านี้ต่อหน้าก็พูดจาดีต่อกัน แต่ลับหลังก็แข่งขันกัน “ร้านชำซอยสี่” โดย ฉันทลักษณ์ อดิลักษณ์ เป็นแนวสนุกสนานเช่นกัน แต่ก็เป็นการตั้งคำถามกับผู้คนที่ต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยไม่พยายามสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่อยากจะได้มันมาแบบสำเร็จรูป “เรื่องเหี้ยเหี้ย” โดย ลัดดา คงเดช เป็นเรื่องที่พูดถึงคนที่ต้องการออกจากกรอบที่สังคมกำหนด แต่เอาเข้าจริงๆแล้วก็ไม่ออกไปไหน “เครื่องพุ่งทะยานหมายเลข 4” โดย จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ ว่าด้วยเรื่องราวของเพื่อนที่สนับสนุนความใฝ่ฝันของเพื่อนแม้ว่าตนเองจะไม่เห็นด้วยกับความฝันนั้นก็ตาม “พลูโตที่รัก” โดย อรุณโรจน์ ถมมา ว่าด้วยความเป็นปัจเจกบุคคลของคนสองคน ที่ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองต้องห่างออกจากกันไป ไม่ว่าจะเลือกความเป็นปัจเจกหรือเลือกความสัมพันธ์ ก็ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ใช่ “ธันยาและพ่อ” โดย นภัค ไชยเจริญเดช เป็นเรื่องที่ตั้งคำถามต่อความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาว ว่าเพราะเหตุใดลูกสาวจึงมักแสดงอาการรำคาญความเป็นพ่อโดยไม่มีเหตุผล แม้ว่าพ่อจะเป็นคนที่ใกล้ตัวและรักเธอที่สุดก็ตาม “A Love Song” โดย อรดา ลีลานุช บทละครที่เป็นประหนึ่งบทกวี ที่มีพื้นที่ให้กับการตีความที่หลากหลาย และ “ขมขื่นในความเงียบ” โดย สินีนาฏ เกษประไพ ที่เกิดความสะเทือนใจจากการที่ผู้หญิงชนกลุ่มน้อยในพม่าเป็นจำนวนมากถูกทหารข่มขืนโดยดูเหมือนจะไม่มีใครให้ความสนใจ ขณะที่ตอนนี้คนจำนวนมากกำลังสนใจประเทศพม่าในฐานะแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ เรื่องราวของผู้หญิงเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ในความเงียบเช่นเดิม




บทละครเหล่านี้ได้ถูกผู้กำกับการแสดงนำไปตีความและออกแบบเพื่อการแสดงอ่านบทละคร โดยใช้ระยะเวลาการทำงานเพียงประมาณ 2 สัปดาห์ และได้เปิดแสดงที่โรงละครพระจันทร์เสี้ยว และหลังการแสดงในแต่ละรอบ ก็มีการเสวนาร่วมกับผู้ชม โดยผู้ชมจะร่วมแสดงความคิดเห็นต่อทั้งประเด็นและวิธีการนำเสนอ รวมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองกับทั้งผู้เขียนบทและผู้กำกับการแสดง ซึ่งเวทีเสวนาเช่นนี้ก็คือกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้ผลิตและผู้ชม เพราะเสียงของผู้ชมก็คือองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาศิลปะการละคร



ในฐานะที่ผู้เขียนอยู่ร่วมในกระบวนการนี้ อาจทำให้มองได้ว่าผู้เขียนพยายามจะมองแต่ด้านดีของโครงการ ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม ผู้เขียนก็ยังเห็นว่าโครงการนี้ได้เดินไปไกลกว่าเป้าหมายแรกที่ตั้งไว้ กล่าวคือ สิ่งที่ตั้งไว้ก็คือการได้บทละครขนาดสั้นที่เขียนขึ้นภายใต้บริบทสังคมไทยร่วมสมัย ที่นักศึกษาด้านการละครสามารถนำไปใช้ในการฝึกปฏิบัติ แต่เมื่อกระบวนการสิ้นสุดลง สิ่งที่พบก็คือความจริงที่ว่า การจะได้มาซึ่งบทละครที่ดีนั้น มิใช่เพียงผู้เขียนบทนั่งเขียนบทอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง แต่บทละครที่ดีนั้นจะต้องได้มาด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของประสบการณ์ที่แตกต่างหลากหลาย ทั้งประสบการณ์ในทางปฏิบัติของนักการละคร ประสบการณ์ที่เป็นแง่มุมด้านหลักการเขียนบท ประสบการณ์ที่เป็นมุมมองเชิงสังคม และประสบการณ์ในฐานะผู้ชมละคร ข้อค้นพบชุดนี้ได้นำไปสู่การตั้งคำถามต่อการเรียนการสอนวิชาเขียนบทละครที่เป็นอยู่ในสังคมไทยว่าการเรียนการสอนดังกล่าวเป็นเช่นไร นอกจากนี้ กระบวนการดังที่กล่าวมา รวมทั้งข้อค้นพบ และบทละครทั้ง 8 เรื่อง จะถูกนำมาจัดพิมพ์เป็นหนังสือและเผยแพร่ต่อไป เพื่อที่ว่าหนังสือเล่มนี้จะได้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศิลปะการละครในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเขียนบทละครเวที


02 May 2017

รายชื่อบทละครสั้นที่ส่งเข้ามาร่วมโครงการ 10 Minute Play #4




สำหรับการเปิดรับบทละครสั้นสิบนาที ได้ประกาศปิดรับบทไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา เรามีความยินดีและขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจส่งบทละครสั้นมาเข้าร่วมโครงการ 10 Minute Play #4 กับเรามากถึง 84 เรื่อง ดังนี้ 


รวมรายชื่อบทละครสั้นที่ส่งเข้ามาร่วมโครงการ 10 Minute Play #4 

1. Sweet Chocolate / สันติภาพ บัวบาน
2. ลาก่อน... โกคู / กิตติภูมิ วงศ์เพ็ญทักษ์
3. ร่มรื่นขืนใจ...ไย...ไย / กิตติภูมิ วงศ์เพ็ญทักษ์
4. เออสัตว์ / กวินธร แสงสาคร
5. Sky Never Been So Blue / อาภาวี บินกำซัน
6. Mercy / อนันตศักดิ์ สมรฤทธิ์
7. ม้านั่งสีเขียว / ศิริศักดิ์ ศิริผล
8. ทะเลดาว / ธนภูมิ คงอนันตพันธ์ 
9. แหมก็ลุงไม่รู้ / วีรภัทร บุญมา
10. เมล็ดพันธุ์ / ทวีศักดิ์ เลิศเดช

11. Passion / ณัฐติพงษ์ บุญพ่วง
12. คนข้างหน้า / เจนจิรา บัวศรี 
13. ฆ่าเวลา / กวินธร แสงสาคร
14. สิวสิว / จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ
15. Afternoon Tea / อรดา ลีลานุช
16. จากนี้ / สุกัญญา เพี้ยนศรี
17. ทางรถไฟสายดอกไม้ / รุจีรัตน์ โชติช่วงสถาพร
18. คำตอบ / อรดา ลีลานุช
19. กลับบ้าน / ชุติมาพร สุภาพสุนทร 
20. Will Be Right Back / ทิพย์พาพร สุนทรจามร

21. Pimm’s no.1 / ฐิติกา ศรีแก้ว
22. หวน / สาธิตา พรหมมาโนช
23. หนึ่งฝัน / สาธิตา พรหมมาโนช
24. มอคค่ามินท์ / สุทธิกานต์ แก้วกันต์เนตร 
25. ซาก / สุทธิกานต์ แก้วกันต์เนตร 
26. Happy Ever After / รัฐกร พันธรักษ์ 
27. แอตติจูด / รัฐกร พันธรักษ์ 
28. สาย / ธนภูมิ คงอนันตพันธ์
29. เล้ง / ศิริวรรณ ศักดิ์ศรี 
30. เหมือนเดิมสอง / ศิริวรรณ ศักดิ์ศรี

31. The Contemporary Accidental Meeting of Lady Macbeth / ปฎิพล อัศวมหาพงษ์ 
32. อย่างไรก็ตาม / ปฎิพล อัศวมหาพงษ์ 
33. ฝันสลาย / วลัญชรัตน์ หมดมลทิน
34. หวย / วลัญชรัตน์ หมดมลทิน
35. อาลัยนักหนา / ดลชญา โลหะสุตสกุล
36. ผู้สาบสูญ / รัฐพงศ์ ภิญโญโสภณ 
37. ใช้งานอยู่ในขณะนี้ / ปริญญ์ เหลาแก้ว
38. เทเลทับบี้ตัวสุดท้าย / ธนวัต กตาธิกรณ์ 
39. On the Road / ชลิดา สุทธิทศธรรม
40. 16 Gigabytes / จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ 

41. ตรงกลางพื้นที่ว่างในเวลาเช้ามืด / วิชญ์พล ดิลกสัมพันธ์
42. สมมนาคุณที่พักฟรีที่ริมทะเล / วรพล ถาวรวรานนท์
43. Acting is Believing / ปานมาศ ทองปาน
44. หนีครู / ณัฐชญา สืบแย้ม
45. Sister / ธัส วีระยุทธวัฒนะ
46. หมดสิทธิ์เลือก / จาริพัตร์ คนยงค์ 
47. ได้เปรียบ / น่านฟ้า ลิขิตปัญยาโชติ
48. น่าอาย น่าอาย อี ยา ยา ยา ยา ยา อ๊ะ อา อะ อ๊ะ อ่ะ อาย น่าอาย อี ยา ยา ยา ยา ยา อ๊ะ อาย
/ พันธกิจ หลิมเทียนลี้ 
49. บุษบายอดรัก / รัญชิดา สิทธิสาร 
50. ตะวันออกไกล / กิติยา สิงห์ลอ

51. เอนมูซูบิ / มิกิ นภัสรพี ผิวเณร
52. เล่าเรื่องเรา / ธนวัฒน์ อัศววงษ์สันติ
53. มอง(ไม่)เห็น / อรวีร์ จันทร์ธนวิทยา
54. ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ / ภูริณัฐ บงสุนันท์
55. Hot Table / เอกรินทร์ มั่งมี
56. แซลมอนรมควัน / กิตติคุณ ศิริสังข์สุชล
57. ไดอารี่ซีรอกส์ / กิตติคุณ ศิริสังข์สุชล
58. เลือก / ภัทรพร ธนาพรไชย
59. น้ำหวาน / ภัทรพร ธนาพรไชย

60. Grey Town เมืองสีเทา / ศิรวิทย์ ศิริผล
61. แผล / มัลลิกา แสงศิริไพศาล 
62. ผู้คล้อยตาม / ปัณณวิชญ์ เถระ 
63. Inter-Secret / สชาร์ โชติเมษ 
64. หนึ่งเวลา / พรเพ็ญ ฟ้าอำนวย
65. แค่เชื่อ / ธีรนิติ์ เจียรพัฒนาคม 
66. My Baby Lullaby / ธงชัย พิมาพันธุ์ 
67. 10 Minute Man / ธงชัย พิมาพันธุ์ 
68. เขมรรำลึก / ธนพนธ์ อัคควทัญญู 
69. น้ำมันตับปลาชนิดแคปซูล / ธนพนธ์ อัคควทัญญู 
70. 13 ความเชื่อผิดๆ ที่คุณอาจจะคิดว่ามันถูกมาตลอดชีวิต (มาดูเฉลยกัน) Cr. WTF เรื่องเด็ดรอบโลก / ธนวิชญ์ ทองพรหม

71. Walking Pace / Step in... / ธีรกานต์ ไม้จันทร์ 
72. ยี่สิบสี่นาฬิกา / ลัทพร คนไว 
73. เดี๋ยวรู้เอง / ชนิดา ปัญญาเนรมิตดี
74. การเดินทาง / เมย์ สุนทรนิทัศน์ 
75. สงบสุข?  / สมฤทัย ถาวระ
76. Admission / ธนพันธ์ ตั้งสิทธิประเสริฐ
77. Classroom / ธนพันธ์ ตั้งสิทธิประเสริฐ
78. หัวหน้าห้อง ป.4 ทับ 0 / นรภัทร นาคยศ
79. จูน / กรกวิน เชษฐพยัคฆ์
80. หาดของเธอ / นารีรัตน์ เหวยยือ

81 รอรถราง / ญาดามิณ แจ่มสุกใส
82 Twenty Me / อาริยา เทพรังสิมันต์กุล
83 ทุกอย่างปกติดี / ณพิม สิงห์โตโรจน์ 
84 Red Box / วาดฝันย์ ดิลกสัมพันธ์ 

รวมทั้งหมด 84 เรื่อง 

ขั้นตอนต่อไป เราจะส่งให้ผู้ร่วมคัดเลือกบทอ่านและเลือก หลังจากนั้นก็จะประกาศผลในอีกประมาณสิบวัน โปรดติดตามค่ะว่าจะได้จัดแสดงทั้งหมดกี่เรื่อง