30 December 2009
Happy New Year 2010
25 December 2009
24 December 2009
ติสตู ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
เด็กชายผู้เปิดจินตนาการแห่งสันติ
เขียนโดย คุณหนอนฝึกหัด
จาก นสพ. กรุงเทพธุรกิจ จุดประกาย ฉบับบวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552
นักปลูกต้นไม้ ตัวน้อยที่โลดแล่นออกมาจากหน้ากระดาษ สร้างเรื่องราวสนุกสนานแฝงทั้งแง่คิด ปรัชญา ความคิดที่สวยงาม ผ่านดวงตาพิเศษให้เราได้ติดตาม
บ่อย ครั้งที่มีการนำบทประพันธ์ไปถ่ายทอดเป็นสื่อการแสดงในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นละครยอดฮิตภาคค่ำ ละครเวที หรือเป็นภาพยนตร์บนจอเงิน เพื่อสะท้อนเรื่องราวและคติความคิดที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องนั้นๆ
ล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในงานเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์ "อภิวัฒน์สู่สันติ" ณ สถาบันปรีดี พนมยงค์ พระจันทร์เสี้ยวการละคร และศิลปินรับเชิญ วศิน มิตรสุพรรณ กลุ่มแกะดำดำ ร่วมใจกันนำเสนอละครหุ่นและสื่อผสมเรื่อง ติสตู นักปลูกต้นไม้ จากบทประพันธ์ของ โมรีส ดรูอง นักเขียนชาวฝรั่งเศส โดยมี อำพรรณ โอตระกูล เป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทย
.................................................
(สาม สอง หนึ่ง...)
เมื่อรอกม่านถูกชักให้สูงขึ้น แสงไฟในห้องมีเหลือไว้ให้เห็นชัดเพียงแค่เวทีการแสดง สักพักหุ่นละครเด็กชายตัวเล็ก ผมสีน้ำตาลทองในชุดเสื้อสีฟ้าก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวไปราวกับนักแสดงตัวน้อยๆ ฉากการไปโรงเรียนวันแรกน่าจะทำให้เด็กชายติสตู ถ้าไม่ประหม่า เขินอายเพื่อนหรือครูใหม่ ก็น่าจะเป็นเด็กที่ตื่นตากับสิ่งต่างๆ ที่พบเห็นนอกรั้วบ้านและใส่ใจกับการเรียนตามคำสอนของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่แล้วขอบตาของเขากลับหนักขึ้นเรื่อยๆ จนปิดสนิทถึงกันในที่สุด
ทาง โรงเรียนไม่สามารถรับเขาให้เข้าเรียนได้ ติสตูเศร้าสร้อยและผิดหวังในตัวเอง พ่อและแม่ของเขาจึงนั่งปรึกษากันว่าจะให้ครูมาสอนที่บ้าน แต่แล้วเหตุการณ์หลับในห้องเรียนก็ย้อนกลับมาอีก เมื่อติสตูเข้าเรียนกับครูตรูนาดิส
ดูเหมือนว่าสิ่งเดียวที่ติสตูจะเรียนรู้และทำได้ดีจะเป็นการปลูกต้นไม้ ที่มีมูสตาช คนสวนเป็นครูผู้สอน เพราะทุกครั้งที่ลงมือเพาะเมล็ด แทบจะทันใด ต้นไม้ก็เติบโตขึ้นอย่างงดงาม ส่วนการเรียนรู้ระเบียบและหน้าที่กับครูตรูนาดิส อย่างการไปคุกหรือไปโรงงานผลิตปืนใหญ่ มรดกของครอบครัวที่ติสตูต้องรับผิดชอบเมื่อเติบโตขึ้น จะสร้างความไม่สบายใจให้กับเด็กน้อยเสียมากกว่า
ติสตู รักในการปลูกต้นไม้ และปลูกไม้ประดับต่างๆ ในทุกๆ ที่ที่เขาเห็นว่าน่าจะช่วยลดความทุกข์ของผู้คนให้ลดลงไปได้ เขามียิมนาสติกม้าแกลบเป็นเพื่อนรักที่เคียงข้าง มีมูสตาชคอยให้คำแนะนำว่าจะปลูกอะไรดี เหล่านี้ทำให้เด็กน้อยเบิกบาน จนกระทั่งมูสตาชที่รักจากไป ติสตูถึงได้เรียนรู้ความจริงอีกประการว่า ดอกไม้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่สามารถหยุดยั้งความตายได้ แม้ว่าสงครามจะไม่เกิดขึ้นเพราะดอกไม้ของเขาก็ตาม
...........................................
ก่อนจะมาเป็นละครหุ่นตัวเล็กๆ น่ารักๆ แถมให้แง่คิดอย่างเปิดกว้างนั้น สินีนาฏ เกษประไพ ผู้กำกับละครหุ่นและสื่อผสมเรื่องนี้ เล่าความเป็นมาถึงการทำงานร่วมกันว่า...
"เราอยากทำงานร่วมกันกับเส่ย-วศิน มิตรสุพรรณ แกะดำดำ เพราะเห็นผลงานของเขามาบ้าง และรู้จักกันมานานแล้ว แต่เมื่อปีที่แล้วได้ไปร่วมโครงการแม่โขงโปรเจคที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการร่วมงานกันระหว่างศิลปินในลุ่มแม่น้ำโขง เราไปเป็นผู้ทำการอบรม เส่ยไปเป็นศิลปินในโครงการ ก็เห็นผลงานที่เส่ยเขาทำในโชว์เคสแล้วชอบ ชอบวิธีการที่เขาปฏิบัติต่อหุ่น ชอบการเชิดหุ่นของเขา มีความรู้สึกว่า 'เอ้อ เขาเจ๋งดีนะ' เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสทำงานชิ้นใหญ่ๆ เลยคุยกันว่าเราน่าจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันบ้าง"
ด้านการเลือกงานวรรณกรรมเรื่องนี้ขึ้นมาเล่นเป็นละครหุ่นในงานนี้ เธอเล่าว่า ได้ฟังเรื่องติสตูจากเส่ย แล้วรู้สึกว่าเรื่องน่ารักดี มีฉากที่พูดถึงการต่อต้านสงครามด้วยดอกไม้ ซึ่งมันตรงกับงานเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์ที่พูดถึงเรื่องสันติภาพ เลยตัดสินใจนำเรื่องนี้มาจัดแสดง
"จากนั้นพี่ก็รับหน้าที่มาอ่าน ทำความเข้าใจ และทำโครงเรื่อง ซึ่งพอมานั่งศึกษางานแล้วก็พบว่าเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมที่น่ารักมาก ไม่เร่ง ไม่เร้า ไม่ดึงดันให้ดูดราม่า หรือน่าสงสาร หรือให้ติสตูเป็นฮีโร่ มันค่อนข้างนิ่งแล้วเปิดจินตนาการ คือถ้าเด็กอ่านเขาก็คงมีความสุข อาจจะไม่ได้คิดมากไปไกลเท่าไหร่ แต่ถ้าผู้ใหญ่มาอ่านล่ะ มันไปไกลได้มากกว่า มันซีเรียสได้มากกว่า ซึ่งเราก็ชอบ
...ในวรรณกรรมจะมีฉากเยอะมากกว่าที่นำมาแสดง สิ่งที่เราทำได้ก็คือเลือกเอาฉากที่สำคัญมาสื่อ แต่ที่เราแสดงทั้งหมดมันคือการเล่าตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง แค่ตัด ลด ทอน แล้วเลือกสิ่งที่สำคัญๆ มาว่าติสตูเป็นเด็กพิเศษ มีจินตนาการ และมีความคิดดีๆ ให้คนอื่น แต่ท้ายที่สุดเขาก็หายไป โดยไม่ได้บอกว่าเขาตายหรือไม่อย่างไร"
เรียกว่ากว่าสี่สิบนาทีของการแสดงนั้นไร้บทพูด จะมีก็เพียงแต่เสียงเพลงเร้าจินตนาการตามท่วงทำนองช้าบ้าง เร็วบ้าง ฟังดูร่าเริง มีความสุขบ้าง ให้อารมณ์โศกเศร้าบ้าง จึงคงไม่แปลกนัก หากผู้ชมต่างวัยจะเห็นเรื่องราวตรงหน้าต่างกันออกไป เด็กๆ วิ่งหาหุ่นจิ๋วน่ารัก ในขณะที่เด็กโตนั่งน้ำตาซึม
"คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยชินว่าทำไมพระจันทร์เสี้ยวทำตุ๊กตาหุ่น ทั้งที่จริงๆ แล้วเราทำหุ่นเชิดมือมานานแล้ว แต่เราใช้ชื่อคณะละคนหุ่นครูองุ่น มาลิก ทำมาตั้งแต่ประมาณปี 2545-2546 เป็นต้นมาแล้ว แต่ปัจจุบันนี้อาจจะไม่ได้ทำอะไรมากนัก เพราะงานละครมันชุก งานนี้เราเลยมาเวิร์คชอปร่วมกับนักแสดง ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ไปค้นมาว่าเราจะช่วยกันเล่าเรื่องอย่างไร โดยโครงสร้างเรื่องที่พี่นาฏให้ไป
จริงๆ เปรียบเหมือนกระดูกงูซึ่งเป็นแกนกลางของเรื่องที่แต่ละฝ่ายจะเอาไปแตกตัวกัน ทำงาน มันทั้งยาก แต่มันก็สนุกแหละ ตอนแรกทำแล้วทิ้งก็เยอะ เพราะขั้นตอนการผลิตมันมีมากกว่าละครคน หุ่นมันต้องใช้เวลานาน ตัวเขาเล็ก ยิ่งต้องละเอียด ช่วงแรกๆ ทำมาแล้ว เอามาซ้อมเชิด ก็ต้องมีแก้ไขบ้าง ตามข้อต่อต่างๆ ให้มันเข้าที่" ผู้กำกับสาวเล่า
แน่นอนว่าการทำละครหุ่น มีข้อจำกัดหลายเรื่อง แต่สำหรับเธอบอกว่า "แม้หุ่นจะมีข้อจำกัดว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็ว หรือทำอะไรพร้อมกันหลายอย่างได้เหมือนกับคน ไม่สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้ แต่ส่วนอื่นที่มีเสน่ห์มากก็คือหุ่นเปิดจินตนาการให้คนอื่นดู โดยเฉพาะเด็ก เขาตัวเล็ก เขาเข้าใกล้เด็กได้มากกว่า พอเราไปเชิดหุ่น ได้ทำงานกับหุ่น เราก็ต้องค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ สื่อสารกัน มันก็ละเอียดในการคิด ในความรู้สึกกันมากขึ้น"
........................................
เมื่อแสงไฟในห้องสว่างขึ้นอีกครั้ง เด็กชายผู้สวมเสื้อสีฟ้าตอนนี้กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าร่วมกับครูคนสวนผู้เป็น ที่รัก ดวงดาวระยิบบนท้องฟ้ามีมากมาย คล้ายกับจะมาต้อนรับการมาเยือนของติสตู
นักปลูกต้นไม้ตัวน้อยที่โลดแล่นออกมาจากหน้ากระดาษได้มาสร้างจินตนาการและหายไปอย่างให้เราได้คิดต่อไปอีก...
อ่านเพิ่มเติมที่
http://news.mediathai.net/detail_news.php?newsid=64849
รางวัล iBook 2009 กับหนังสือแรงบันดาลใจจาก 10 สาขาอาชีพ
"การทำละครเวทีไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝันแต่เป็นเรื่องของความจริง ที่เกิดจากการทำงานที่ผ่านกระบวนความคิค การวางแผน และความตั้งใจของคนทำงาน และคนทำงานต้องเรียนรู้อยู่เสมอ และต้องสั่งสมประสบการณ์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน หรืออาชีพใดก็ตาม ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้เป็นอย่างดีครับ"
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.deknaimor.com/nview.php?nid=978
17 December 2009
โครงการ ibook TK Young Writer Academy 2009
“แรงบันดาลใจ จาก 10 สาขาอาชีพ”
ณ ลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ ทีเค ปาร์ค
ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
กำหนดการ
13.30 – 14.00 น. ลงทะเบียนและเยี่ยมชมนิทรรศการ 10 คนต้นเรื่อง กับ 10 นักเขียนมือใหม่
/ รับประทานอาหารว่าง
14.00 – 14.05 น. พิธีกรกล่าวต้อนรับ
14.05 – 14.25 น. กล่าวเปิดงาน โดย คุณทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้
กล่าวถึงความร่วมมือโครงการฯ พร้อมพันธมิตร ประกอบด้วย
- คุณธนัท วรรณสอน ผู้จัดการทั่วไป บจก. เอเอ็นทีออฟฟิศเอ็กซ์เพรส
- ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป
ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
- คุณสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซี.เอส.เอส. เปเปอร์ จำกัด
- คุณจิณห์สิภา เธียรเจริญชัย PSB Strategic Marketing Manager
บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
- คุณปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล
14.25 – 14.45 น. เสวนาหัวข้อ “โอกาสของหนังสือไทยจะโตต่างประเทศ”
คุณสร้อยทิพย์ สุกล กรรมการ บริษัท เบสท์ บุ๊คส์ ออนไลน์ จำกัด
ดำเนินการเสวนา โดย อาทิตยา ทรัพย์สินวิวัฒน์ (พิธีกรรายการ TK Teen)
14.45 – 15.00 น. คุณชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
และคุณประชาคม ลุนาชัย คณะกรรมการตัดสินผลงานเขียนของเยาวชน
กล่าวให้คำแนะนำแก่นักเขียนเยาวชนมือใหม่ทั้ง 10 คน
15.00 – 15.10 น. พิธีกรเรียนเชิญ “คนต้นเรื่อง” กล่าวให้กำลังใจน้อง ๆ เยาวชน
- คุณยุทธนา บุญอ้อม ผู้บริหารสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
- คุณกรณ์ เทพินทราภิรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์
บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย จำกัด
- คุณสินีนาฏ เกษประไพ ศิลปินศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง ปี 2551
- ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรี ปี 2552
- คุณอดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ผู้กำกับภาพยนตร์ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
- คุณธีรนุช ยอดนุ่น พิธีกรรายการคนละไม้คนละมือ
- คุณกิตติพจน์ อรรถวิเชียร บรรณาธิการบริหาร BE Magazine
- คุณปกรณ์ สันติสุนทรกุล เจ้าของเว็บไซต์ dek-d.com
15.10 – 15.30 น. ประกาศผลรางวัล และถ่ายภาพร่วมกัน
- คุณทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้
- คุณปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล
- คุณธนัท วรรณสอน ผู้จัดการทั่วไป บจก. เอเอ็นทีออฟฟิศเอ็กซ์เพรส
- ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป
ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
- คุณสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซี.เอส.เอส. เปเปอร์ จำกัด
- คุณจิณห์สิภา เธียรเจริญชัย PSB Strategic Marketing Manager
บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
- คนต้นเรื่อง แรงบันดาลใจจาก 10 สาขาอาชีพ
- คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
----------------------------------------------
*กำหนดการอาจมีการการเปลี่ยนแปลง
16 December 2009
ละครเวทีของคณะไอซีที ม.ศิลปากรเรื่องแรก
ภูมิใจเสนอ ละครเวทีเรื่องแรก
ล่า-ท้า-ฝัน
ดัดแปลงจากบทละครเยอรมันเรื่อง Creeps ของ Lutz Hubner
สาว 3 คน 3 สไตล์ 3 กับการคัดเลือกเป็น VJ ในรายการ BE yourself BE your style @ BE Channel
ร่วมค้นหาฝันกับพวกเธอได้
รอบการแสดง
รอบที่ 1 วันที่ 8 มกราคม 2553 เวลา 19.30 น.
รอบที่ 2 วันที่ 9 มกราคม 2553 เวลา 14.00 น.
รอบที่ 3 วันที่ 9 มกราคม 2553 เวลา 18.00 น.
รอบที่ 4 วันที่ 10 มกราคม 2553 เวลา 14.00 น.
แสดงโดย
ภัทรา หงษ์ทอง, ช่วงอรุณ เศวตเลข, ธนันดา เทพสิงห์
ร่วมด้วย
ฟารีดา จิราพันธุ์, นวพร รุ่งศรี และ นักศึกษานิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 2 และ 3
กำกับการแสดงโดย สินีนาฏ เกษประไพ
แสดงที่ หอประชุมสถาบันปรีดี พนมยงค์ (ซ.ทองหล่อ)
บัตรราคา 150 บาททุกที่นั่ง
จำหน่ายบัตรที่ร้านน้องท่าพระจันทร์และร้านดีเจสยาม
E-mail : Lakornictsu@hotmail.com
http://www.ict.su.ac.th/lakorn/
13 December 2009
ข่าวติสตู ในนสพ.กรุงเทพธุรกิจวันนี้
06 December 2009
29 November 2009
Picture of Purgatory in Mekong Arts Fest
21 November 2009
Purgatory in Mekong Arts and Media Festival 2009
in Mekong Arts and Media Festival 2009
20 November 2009
Performances in Mekong Arts Fest 2009
ช่วงครึ่งวันเช้าจะเป็นช่วงประชุมสัมนา ช่วงบ่ายเป็นช่วงการอบรม ช่วงเย็นชมการแสดงกลางแจ้ง หรือชื่อเก๋ๆว่า ช่วง Twilight Performances ส่วนช่วงค่ำเป็นช่วงการแสดงหลัก Main Performances ในโรงละครหรือหอประชุมจตุรมุข
ดูตารางการแสดงได้ที่นี่
PERFORMANCE CALENDAR
DAY 1
Opening Ceremony
DAY 2
Twilight Performances, Garden Area,
WISHES OF THE HANDS, Moe Satt (Myanmar)
Performances artists, Moe Satt does an interactive piece that allows audience to throw in thier messages how they feel on issues affecting them.
PRINCE AND PRINCES, Mandaly Marionettes (Myanmar)
A magnificent and sentimental duet about the Prince who comes back from his studies and brings his love to the palace.
MAIN PERFORMANCES
Zhang Yinzhong (China)
Dream, National Puppet Theatre Troupe- Kabong Lao (Laos)
The Performance is a reflection of how human beings are getting punished by the environment for the damage that we have caused. Told through the dreams of Grandpa Chan and Grandma Chan, four scenes: The Shower Head, Elephant, Samurai and Sunami show our careless and irresponsible actions towards the environment and wildlife and the negative consequences of actions.
PURGATORY, Cresent Moon Theatre (Thailand)
After their death, three women meet in the cauldron of Hell. They share their life stories and questions why they are there. They ask the God of the Underworld to judge their guilt and decide if they can go to Heaven, not knowing that the God has another plan for them.
DAY 3
Twilight Performances, Garden
CHAPEI DANG WENG, Cambodian Living Arts (Cambodia)
Chapei is a traditional musical instrument which can be played on its own or as an accompaniment to peotry, narrated stories and riddles, as well as in duets and debates.
LES BALLAYETTE, Phare Ponlue Selpak (Cambodia)
A song and dance peice about how women should have a choice. The English translation of Les Ballayette is the brush, used here as a symbol of how women should clean out the notion that they should always say yes.
MAIN PERFORMANCES (Main Theater, Chaktomuk Conference Hall)
THE MAGICIAN, Manadalay Marionette (Myanmar)
According to poppular belief Zaw-Gyi is a demigod clad in red, full of vigour, and lives in the forest. He always carries a magic stick. He has a friendly face which express his philosophical mind. As he is an Alchemist, he grinds medical plants with his magic stick on a stone slab. When he achieves success, he dances about and does a lot of acrobatics and sits on his magic stick. He is puppet character who is capable of flying through the air and boring through the earth.
FOR A LITTLE LESS NOISE MAE NAM (Mother of Water),
Khandha Arts'n Theater Company (Thailand)
A multidisciplinary contemporary theatre piece for the advocacy of HIV/ AIDS, Mae Nam is a dramatic interpretation with HIV from her beloved husband. The performance consists of different scenes, each highlighting social anbd cultural conditions, contemporary Asian society prejudices as well as its spirituality.
PUTHOU!, Phare Ponlue Selpak (Cambodia)
Puthou! is a celebration of life. It depicts love, jealousy, deception, anger and all youthful emotions. In Khmer, Puthou means, Oh My God! This performance is a co-production by Phare Ponlue Selpak and the Philippine Educational Theater Association and is the first show to be produced by the second generation of students composed of 13 teenagers who spent a whole year together abroad for training in a circus skills. Some of them trained at Vietnam Circus School and the others at Ecole de Cirque de Lomme in France.
DAY 4
Twilight Performances, Garden
BROUGHT YOU A FLOWERS WILL YOU MARY ME
PETA- Metropolitan Teen Theater League (Philippines)
A young man sets out to ask a girl he loves to marry him. A product of the performance laboratory for the young artists of the Philippine Educational Theater Association, entitled Toilet Bowl, this is a solo performans that tackles the issue of adolescent sexuality.
FACES AND FINGERS, Moe Satt (Myanmar)
F n' F is a performance art based on how the combination of hand gesture can combine with different facial expressions to present various meanings. For instance a hand sign of the gun could only present a gun. But when it is coupled with different facial expressions, it begins to mean differently. Moe Satt shows this to the audience by presenting different hand signals with different facial expressions and letting the audience find out the meaning of the signs.
Main Performances, Main Theater, Chaktomuk Conference Hall
THE REBORN OF THE BUTTERFLY
Wandering Moon Performing Group and Endless Journey (Thailand)
The Reborn is based on the Shadow theater performance ncalled the Butterfly Series. It tackles sensitive women issues like indentity crisis, sexual desires and abortion. Wandering moon expresses their views on these issues using their artistic craft through shadow theater.
HOW TO MOVE FORWARD TO THE NORTH - TO THE NORTH EAST
Ho Ho-Do (Japan)
This peice has been performed in 14 cities in Japan and abroad. Ho Ho-Do uses the wind blowing from huge running fun as a motif to show a collection of continuous small dance like moments. Then piece keeps evolving every time it is performed.
STEREO MAN, Youth Theater (Vietnam)
Stereoman is an exploration of the modern dance genre, created with Philippine choreographer Agnes Locsin. Through dance and movement, four male dancers capture images of men society has shaped them to be. The movements express the discourse that while a human is made of two parts-the yin and the yang, the masculine and the feminine, oru society tells us that only one side is allowed to be shown, thereby creating an imbalance.
DAY 5
CLOSING PERFORMANCES, Main Theater, Chaktomuk Conference Hall
ISMAEL AT ISABEL, Philippine Educational Theater Association (Philippines)
In line with the 20th Anniversary of the Universal Declaration of the Rights of the Child, PETA produced this moving story about two children, a Christian and a Muslim- Ismail and Isabel who were once blind to their religious differences until the war reached their small village in Mindanao. Now faced with the reality of discrimination, intolerance, war and violence, the two are chattered and can only find peace in telling and re-telling the folktales once told by their parents.
ECLIPSE (excerpts),Phare Ponlue Selpak (Cambodia)
Excerpts from the performanceset in a fictional village, Eclipse where locals discriminate anyone different. A strange looking man who falls victim to this discrimination prays for divine intervention. The gods responded by turning hin into a beautiful woman who steals the hearts of all the village men.
19 November 2009
Mekong Arts and Media Festival 2009
Breaking Barriers, Converging Arts: The Arts and Media Festival 2009
งานเทศนี้เป็นการรวมตัวของนักการละครในประเทศลุ่มแม่โขง และรวมทั้งประเทศอื่นๆด้วย เป็นงานสรุปของโครงการ Peta Mekong Project ที่จัดโดย PETA หรือ The Phillipines Educational Theatre Association กลุ่มละครที่ทำงานด้านการพัฒนาและการศึกษาที่มีประวัติการทำงานยาวนานกว่า 30 คงเกือบๆ 40 ปีแล้ว เค้าจัดโครงการอบรมแลกเปลี่ยนให้กับศิลปินนักการละครในลุ่มแม่โขงมา 3-4 ปีแล้ว พระจันทร์เสี้ยวการละครก็มีส่วนร่วมในงานนี้กับเขามาตั้งแต่แรก
คือตั้งแต่การทำรีเสริ์ชหาข้อมูลกลุ่มละครไทย ปี 2003 เราได้รับเชิญให้นำละคร "Venus Party" ไปแสดง ที่ฟิลิปินส์ ในปี 2006 ตัวแทนของเราได้รับเลือกให้เข้าร่วมอบรมแลกเปลี่ยนใน Mekong Laboratory 2006 ที่เวียดนาม ในครั้งนั้น นาด กับ ฟา ไปเข้าร่วม และเราได้งานละครเรื่อง "ไฟล้างบาป" กลับมา และนำมาจัดแสกงต่ออีกหลายครั้ง
ปีถัดมา Mekong Laboratory 2007 ที่กัมพูชา คือ พนมเปญ เสียมเรียบ และ พระตะบอง เกรียง กับ โบ ไปเข้าร่วมอบรม นาด ได้รับเชิญให้ไปเป็นศิลปินที่ให้การอบรม และ ในปี 2008 จัดที่เยงใหม่ ครูคำรณ และ นาด ก็ได้ไปเป็นผู้ให้การอบรมอีกครั้ง
เราเอาข้อมูลประชาสัมพันธ์งานนนี้มาลงไว้ที่นี่แล้ว
The Mekong Sub-Region composed of Cambodia, China, Laos, Myanmar, Thailand and Vietnam holds the remarkable distinction of being one of Asia’s cultural lifeblood. Its interesting cross-cultural diversity and the rich mix of history and art provide for a great backdrop for organizing the Mekong Arts and Media Festival 2009 this November 23-27 at Phnom Penh, Cambodia.
Organized by the Philippine Educational Theater Association – Mekong Partnership Program in conjunction with Phare Ponleu Selpak, Save the Children-UK, and Center for Community Health Research and Development, the Festival is seen as an opportunity for artists, media practitioners, cultural workers, and key players in development work to showcase and exhibit artistic works that have contributed to the development of new, innovative communication channels for advocacy and transforming communities. The Festival is also slated to be one of the highlights and culmination of PETA’s five-year engagement in mobilizing the creative communities in the region using the arts and other creative media as tools for advocacy and development work.
En route to a new path of meaningful expression by blending arts and media, the Festival hopes to cover the potential range of talents by providing venues for sharing of skills, techniques and building partnerships for collaboration. Delegates and visitors can expect performances, conferences of interest groups, workshops, visual arts and photo essays, short films and documentaries. Special events like the opening and closing parade will feature in full regalia the various cultural symbols and icons of the different countries in the Mekong Region. To get a taste of each culture, a Mekong cultural trade fair will showcase and sell various arts,crafts and products of the participating countries while respected individuals of the Asian art scene will also facilitate the different workshops.
To preview what’s in store at the Festival, click this link
http://www.youtube.com/watch?v=1OgVHPrnRYI.
18 November 2009
Mekong Fest in the Nation newspaper
Go to Read : http://blog.nationmultimedia.com/danceandtheatre/2009/11/17/entry-1
ละครไฟล้างบาปไปพนมเปญ
รอฟังความคืบหน้าต่อไป
16 November 2009
สาวชาวนาไปโตเกียว
12 November 2009
ไฟล้างบาป 2009
ตอนนี้เรากำลัง เตรียมละครเรื่องนี้ “ไฟล้างบาป” (PURGATORY) เพื่อไปร่วมงานเทศกาล Mekong Arts and Media Festival 2009 ระหว่างวันที่ 23 -27 พฤศจิกายน 2552
ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
หลังจากนั้นเราจะนำกลับมารสเตจอีกครั้งเพียง 5 รอบเท่านั้น ที่ละครโรงเล็ก Crescent Moon space ในวีคแรกของเดือนธันวาคม
ละครเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันของ จา ฟา จุ๋ม และ นาด จากโครงการ PETA Mekong Laboratory 2006 ที่เวียดนาม แล้วก็กลับมาพัฒนาต่อ จัดแสดงในเทศกาลละครกรุงเทพ 2006 แล้วปีถัดมาเรานำไปทัวร์ในมหาวิทยาลัย 10 แห่ง
ในการแสดงครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อย เนื่องจาก จา เดินทางไปแสดง "สาวชาวนา" ที่โตเกียว เราจึงชวน โบ ศรวณี มาแสดงแทน โดยสลับบทให้โบแสดงเป็นรากแก้วแทนนาด ส่วน นาด จะแสดงในบทของจา
Mekong Arts and Media Festival 2009
23-27 November, 2009 at Phnom Pehn, Cambodia
The Mekong Sub-Region composed of Cambodia , China , Laos , Myanmar , Thailand and Vietnam holds the remarkable distinction of being one of Asia ’s cultural lifeblood. Its interesting cross-cultural diversity and the rich mix of history and art provide for a great backdrop for organizing the Mekong Arts and Media Festival 2009 this November 23-27 at Phnom Penh, Cambodia.
See more: http://www.mekong-artsfest2009.com/
09 November 2009
08 November 2009
ติสตูพรีวิว
http://www.blog.nationmultimedia.com/danceandtheatre/2009/11/06/entry-1
ส่วนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของ ติสตู นักปลูกต้นไม้แล้ว รอบบ่าย เต็มแล้ว เหลือแต่รอบค่ำ รอบสุดท้าย เพียงรอบเดียวเท่านั้น รอบ 19.30 น.
"มาเป็นกำลังใจ
ให้ผมด้วยนะคร๊าบ..."
06 November 2009
ติสตู นักปลูกต้นไม้
กำกับการแสดงโดย สินีนาฏ เกษประไพ
7-8 พฤศจิกายน 2552
เวลา 14.00, และ 19.30
แสดงที่ ห้องประชุมพูนศุข พนมยงค์
สถาบันปรีดี พนมยงค์ (ซอยทองหล่อ)
บัตรผู้ใหญ่ 300 บาท
นักเรียน, นักศึกษา 250 บาท
นักเรียนประถม-ม.ต้น 100 บาท
(น้องๆอนุบาล ชมฟรี)
โทร 081 525 7671 และ 081 612 4769
E-mail: contact@crescentmoontheatre.com
http://www.crescentmoontheatre.com/
งานนี้ร่วมแสดงในงานศิลปะนานาพันธุ์ “อภิวัฒน์สู่สันติ” ในวาระครบรอบ 110 ปี รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ จัดโดย สถาบันปรีดี พนมยงค์
05 November 2009
เสวนาละครใน BTF 2009
ขอเชิญทุกท่าน ร่วมฟังเสวนาดี ๆ ในเทศกาลละครกรุงเทพ 2552
เวทีเด็กและเยาวชน สนามหญ้าหน้าศาลาไทย สวนสันติชัยปราการ
หัวข้อ
ประสบการณ์เทศกาลละครต่างประเทศ : มองเทศ มองไทย
ผู้ดำเนินการเสวนา
พิเศษ หากท่านไปร่วมงาน ทีมงานมีหนังสือรวมบทเสวนา ของปีที่แล้ว จัดพิมพ์ขนาดพกพา แจกฟรีด้วย